หมวดหมู่: Fantasy, Horror, Mystery
เรทผู้ชม: TBC
 0 นาที
ผู้กำกับ: Ishana Night Shyamalan
นักแสดง
 Dakota Fanning
Georgina Campbell
Olwen Fouéré

เรื่องย่อ

คือที่ไหน

คือใคร

คืออะไร

 

ผลงานจากผู้อำนวยการสร้างฯ เอ็ม ไนท์ ชามาลาน สู่ภาพยนตร์เรื่อง “The Watchers” เขียนบทสำหรับภาพยนตร์และกำกับฯ โดยอีชานา ไนท์ ชามาลาน สร้างอิงจากนิยายของ เอ.เอ็ม. ไชน์ ภาพยนตร์เป็นเรื่องราวของ มิน่า ศิลปินวัย 28 ปี ผู้ตกอยู่ในสภาพที่ลำบากกลางป่าห่างไกลในไอร์แลนด์ตะวันตก เมื่อมิน่าได้พบกับบ้านพัก เธอไม่รู้เลยว่าจะต้องติดกับอยู่กับคนแปลกหน้าอีก 3 คน โดยทุกคืนจะถูกพวกสัตว์ลึกลับจับตามองและคอยย่องตามตลอด

คุณมองไม่เห็นพวกมัน แต่พวกมันเห็นทุกสิ่ง

ภาพยนตร์เรื่อง “The Watchers” นำแสดงโดยดาโกต้า แฟนนิ่ง (“Once Upon a Time in Hollywood,”),  จอร์จิน่า แคมป์เบล (“Barbarian,” “Suspicion”), โอลิเวอร์ ฟินน์แกน (“Creeped Out,” “Outlander”) และโอลเวน แฟเร่ (“The Northman,” “The Tourist”) ภาพยนตร์อำนวยการสร้างฯ โดย เอ็ม. ไนท์ ชามาลาน, แอชวิน ราจาน และ นิมิตต์ แมนแคด อำนวยการสร้างบริหารฯ โดย โจ โฮมวูด และ สตีเฟน เด็มบิตเซอร์

ทีมงานเบื้องหลังผู้ร่วมงานกับผู้เขียนบทฯ / ผู้กำกับฯ ชามาลาน ได้แก่ ผู้กำกับภาพ อีไล อาเรนสัน (“Lamb,” “Hospitality”) ผู้ออกแบบฉาก เฟอร์เดีย เมอร์ฟี่ (“Lola,” “Finding You”) ผู้ลำดับภาพ จ็อบ เทอร์ เบิร์ก (“Benedetta,” “Elle”)  และผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย แฟรงค์ แกลลาเชอร์ (“Sebastian,” “Aftersun”) ดนตีโดยอาเบล คอร์เซนิวสกี้ (“Till,” “The Nun”)

นิวไลน์ ซีเนม่า นำเสนอภาพยนตร์จาก A Blinding Edge Pictures / Inimitable Pictures Production, A Film By Ishana Night Shyamalan เรื่อง “The Watchers” กำหนดเปิดตัวในโรงภาพยนตร์ต่างประเทศเริ่ม 5 มิถุนายน  2024 และในอเมริกาเหนือวันที่ 7 มิถุนายน 2024 จัดจำหน่ายทั่วโลกโดยวอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิกเจอร์ส

 

สัมภาษณ์อีชานา ไนท์ ชามาลาน  (ผู้กำกับฯ / ผู้เขียนบทฯ), 

เอ็ม. ไนท์ ชามาลาน (ผู้อำนวยการสร้างฯ) และ ดาโกตา แฟนนิ่ง (ไมน่า)

 

เนื้อเรื่อง

อีชานา ชามาลาน:  ภาพยนตร์เรื่อง “The Watchers” เป็นเรื่องราวของหญิงสาวผู้อาศัยที่กัลเวย์ เธอบังเอญร่วมผจญภัยผ่านไอร์แลนด์และถูกจับตัวกลางป่า บรรยากาศป่าที่ชวนน่าหลงใหลมาโอบล้อมเธอไว้ ที่นั่นเธอได้พบกับคนอีก 3 คนและได้รู้มาว่าจะมีสิ่งมีชีวิตเข้ามาเยี่ยมพวกเขาทุกคืน โดยมันจะเฝ้าดูพวกเขาผ่านหน้าต่าง ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการผจญภัยเพื่อค้นหาความลึกลับนี้ หาคำตอบว่าสิ่งมีชีวิตเหล่านี้คืออะไรและพวกมันต้องการอะไร ทำไมพวกมันจึงเฝ้าจับตาดู?

 

ดาโกต้า แฟนนิ่ง: ภาพยนตร์เรื่อง “The Watchers” เกี่ยวตัวละคร ไมน่า ของฉันค่ะ เธอพบว่าตัวเองต้องอยู่ในป่าแห่งนี้และได้พบกับคน 3 คนซึ่งต้องอาศัยอยู่ร่วมกับพวกเขาด้วย.. จากนั้นยังพบอีกว่าช่วงกลางคืนจะถูกสัตว์ประหลาดจับตามอง ทุกคนหาเหตุผลมาอธิบายไม่ได้ มันเป็นการผจญภัยที่ไมน่าได้ค้นพบตัวเองผ่านเหตุการณ์อันน่ากลัวแบบนี้ 

 

จุดเริ่มต้น

อีชานา ชามาลาน: ตอนที่ต้องตัดสินใจว่าภาพยนตร์เรื่องแรกจะเป็นแบบไหน ฉันดูแหล่งข้อมูลมากมายเพื่อหาแรงบันดาลใจ ฉันชอบเล่นกับแฟนตาซีและทริลเลอร์ที่มาผสมกัน หนังสือของเอ.เอ็ม ไชน์ เป็นของขวัญของฉันและพอเริ่มอ่านจนถึงหน้า 70 ฉันคิดว่า “ฉันต้องสร้างหนังเรื่องนี้” มันเป็นหนังสือที่สนุกมาก เหมือนหนังที่มีองค์ประกอบ มีภาพในจินตนาการเยอะมาก ทำให้เราต้องนึกภาพโลกเหล่านี้เป็นอย่างไรและตัวละครหน้าตาแบบไหน มันรู้สึกเหมือนการรวมแรงบันดาลใจอันไร้ขอบเขต มันเป็นความฝันทั้งผู้เขียนบทฯ และผู้กำกับฯ ในการเขียนบทฯ ของฉันส่วนใหญ่จะเป็นการจดจำเรื่องราว ความรู้สึกครั้งแรกต่อหนังสือที่อ่าน และภาพในจินตนาการเหล่านั้นที่เห็น และก็มีบางฉากในหนังที่ออกมาตรงกับที่ฉันนึกภาพเอาไว้ครั้งแรกตอนที่อ่านหนังสือ

 

เอ็ม. ไนท์ ชามาลาน: อีชานาเป็นผู้แต่งส่วนใหญ่ของตอน “Servant” และกำกับฯ หลายส่วน เธอมีจินตนาการในสิ่งที่ให้ความสนใจ เรื่อง “The Watchers” เป็นหนังสือชวนทึ่งสำหรับการดัดแปลงของเธอ เธออ่านและตกหลุมรักมัน อยากทำหน้าที่ทั้งเขียนบทฯ และกำกับฯ มันก็เป็นเรื่องที่วิเศษมากเลย เราพูดว่า “มันเป็นผลงานของนักเขียนไอริชและอิงจากนิทานไอริช มันต้องเป็นหนังที่มีความงดงามแน่นอน และเราสามารถถ่ายทำกันได้ที่ไอร์แลน” และเราก็ทำแบบนั้นจริงๆ 

 

แรงจูงใจ

อีชานา ชามาลาน: ฉันรู้ว่าการสร้างหนังแนวนี้จะต้องเป็นแนวทริลเลอร์/สยองขวัญ ไม่ใช่แค่ความรู้สึกและแนวโน้มจากหนังสือ แต่เพราะนี่คือแนวที่ฉันเพลิดเพลินกับมันที่สุดด้วย มันมีความหดหู่ที่เราอยากจมดิ่งลงไปในนั้น ฉันได้แรงบันดาลใจส่วนใหญ่มาจากผลงานของลาร์ แวน เทรียร์ “Antichrist” ความโหดร้ายในเรื่อง รายละเอียด และความรู้สึกต่างๆ มันสอดคล้องกันอย่างเป็นธรรมชาติ ความรู้สึกแบบนั้นลงตัวกับเรื่องนี้มาก แต่เมื่อเราเริ่มลงมือทำงาน มันเต็มไปด้วยความสนุกและความสดใสในการทำงานที่กลายเป็นโทนเรื่องมีชีวิตชีวากว่าที่ฉันคิดภาพเอาไว้มาก มันมีความเข้มข้นและเต็มไปด้วยสีสันทั้งภาพรวมและตัวละครต่างๆ ทุกอย่างรวมตัวเข้ากันอย่างลงตัว

 

ที่มาที่ไป

อีชานา ชามาลาน: ช่วงแรกเริ่มของการทำงานฉันได้ร่วมงานกับผู้ออกแบบฉาก เฟอร์เดีย เมอร์ฟี่ เพื่อรวบรวมหนังสือที่มีภาพตามคอนเคซปต์ เขาเป็นทีมงานคนแรกที่ฉันเริ่มร่วมงานด้วย ช่วงเวลาหลายเดือนก่อนที่เรารู้ว่าจะทำการถ่ายทำกัน เราเจาะลึกลงไปในโลกใบนี้ว่าควรเป็นแบบไหน เราร่วมงานกับผู้ชำนาญด้านคอนเซ็ปต์ และผลลัพธ์ที่ออกมามันดีมากแต่ยังเปิดเผยกับทุกคนไม่ได้ เราส่งมันไปให้ทีมนักแสดงก่อนเวลา ก่อนที่ทุกคนจะเดินทางมาถึง เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสว่าโลกใบนี้มีความยิ่งใหญ่ขนาดไหน 

เอ็ม. ไนท์ ชามาลาน: ผมคิดว่าจุดเริ่มต้นของเรามาจากแรงบันดาลใจของเอ.เอ็ม ไชน์ และความรู้เรื่องตำนานไอริช ซึ่งเป็นสิ่งที่เขารู้จริงและสร้างความตื่นเต้นให้เราทุกคน เขาคือนักเล่าเรื่องโบราณที่ใช้ในการอ้างอิงได้เลย เราอาศัยความรู้จากเขาและนำมาสร้างเป็นเรื่องระทึกขวัญที่ทันสมัย นับเป็นความน่ารักที่ได้เรียนรู้ว่าต้นกำเนิดจริงๆ คือที่ไอร์แลนด์ มีการพูดถึงความลึกลับในเรืองราว ผมคิดว่าส่วนที่สนุกเกี่ยวกับเรื่องราวตำนานกริมส์คือความลึกลับที่ซ่อนอยู่ และอัล [ไชน์] ก็ย้ำเตือนผมทุกอย่างโดยการสร้างผลงานแนวนั้นขึ้นมา เราไปสำรวจสถานที่และได้เห็นโต๊ะของจริงในผับที่เขาได้ไอเดียนี้ ต่อมาเราจึงตัดสินใจถ่ายทำกันที่นั่น 

 

สถานที่..

อีชานา ชามาลาน: หนังสือของอัลให้ความรู้สึกพิเศษมาก ในวิธีการบรรยายโลกและโดยเฉพาะกัลเวย์ ทุกคนที่คุยกับเขารู้ว่าเขารักกัลเวย์ขนาดไหน  จึงรู้สึกว่าการแสดงความเคารพต่อเรื่องราวของเขาที่ดีที่สุดคือการถ่ายทำที่นั่น เราถ่ายทำฉากบาร์กันในบาร์ที่เขาเขียนหนังสือ ใกล้กับที่นั่งที่เกิดเรื่องราว มันรู้สึกว่าได้พลังบางอย่างจริงๆ เลยครับ

 

การสำรวจสถานที่ในป่าเป็นสิ่งหนึ่งที่ต้องการความแม่นยำสำหรับการเตรียมตัวมาก เรามีการจัด 3-4 ทริปและสังเกตสถานที่ทั้งหมดในพื้นที่ทั่วไปสำหรับการถ่ายทำ.. แต่เราไม่เจอสถานที่เหมาะสม ป่าทุกแห่งให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันมาก… มันให้พลังไม่เหมือนกันเลย จากนั้นเราได้พบกับ Ballinastoe Woods ใน County Wicklow มันมีความโดดเด่นเหลือเชื่อและเต็มไปด้วยความลึกลับ ต้นไม้ที่ซ่นเร้นเอาไว้ บางต้นเมื่อเราสัมผัสมันจะสลายเป็นเศษเล็กๆ ในมือเราเลย เรารู้ตั้งแต่แรกว่าป่าจะต้องมีเอกลักษณ์ของตัวเอง และมันเห็นภาพนั้นทันทีเมื่อเราก้าวเข้าไปใน Ballinastoe Woods มันมีพลังและเอกลักษณ์แทรกซึมเข้าไปอยู่ในพื้นดินและต้นไม้ เพียงแค่ได้เข้าไปอยู่ที่นั่นช่วงจัดสถานที่หรือระหว่างถ่ายทำ… มันทำให้เรารู้สึกเหมือนอยู่ในโลกของวอทเชอร์สจริงๆ  เรามีสถานที่อันโดดเด่นของเรา และเราสร้างอย่างอื่นขึ้นมารอบบริเวณนั้นอีก 

 

ดาโกต้า แฟนนิ่ง: ประสบการณ์การถ่ายทำที่ไอร์แลนด์ช่างวิเศษมากค่ะ เป็นการถ่ายทำที่นั่นครั้งที่ 2 สำหรับฉันเลยค่ะ รู้สึกคุ้นเคยที่ได้กลับไป ฉันรักดับลินมากเลยค่ะและป่าที่ Wicklow ด้วย ที่นั่นมีความลงตัวกับเรื่องราวมาก ป่าต่างๆ ที่เราถ่ายทำกันแม้แต่ป่าแห่งหนึ่งที่อยู่ตามท้องถนนก็มีหน้าตาและบรรยากาศต่างกันอย่างสิ้นเชิง มีการเสริมเข้าไปในหลายฉาก เราถ่ายทำกันที่ Galway 2-3 วัน มันให้ความรู้สึกที่พิเศษมากค่ะ รู้สึกดีมากที่ได้ถ่ายทำตามฉากในหนังสือ ไอร์แลนด์เป็นสถานที่สวยงาม ฉันรักมันมากเลยค่ะ

 

เอ็ม. ไนท์ ชามาลาน: เราไปถ่ายทำกันที่ไอร์แลนด์เสมอ ในเรื่องนี้จำเป็นต้องถ่ายทำที่นั่น มันจำเป็นสำหรับเราที่ต้องถ่ายทำร่วมกับทีมงานไอริช และใช้นักแสดงไอริชิมารับบทบาทหลายคน มันคือความเหมาะสมของเรื่องราว สิ่งสำคัญของเรื่องคือความสมจริง ต้องเชื่อได้ว่ามีป่าแห่งนี้ในไอร์แลนด์และเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นจริง ทำให้เชื่อว่าตำนานเรื่องนี้อาจมีจริง เราอยากให้ผู้ชมทั่วโลกเข้ามาอยู่ในโลกที่มีความสมจริงใบนี้ การมีอีชานาพาไปสัมผัสทุกสิ่งในไอร์แลนด์นับเป็นอาวุธที่ดีของเรื่อง มันคอยกระซิบผู้ชมให้ได้ยินตลอดว่า “มันคือเรื่องจริง… มันคือเรื่องจริง” 

 

ห้องขัง

อีชานา ชามาลาน: ห้องขังเป็นสถานที่น่าสนใจมากค่ะ มันทำให้เราเล่นอะไรหลายอย่างและได้ใช้ความคิดตอนออกแบบการสร้าง เช่น มันเหมือนกับหอสังเกตการณ์ แต่มันก็เหมือนเหรียญ 2 ด้าน เราเฝ้าสังเกตการณ์ แต่เราก็จะถูกจับตามองไปด้วย โครงสร้างแบบนั้นควรมีหน้าตาแบบไหนถึงจะมองได้ทั้งสองด้าน? เราสนุกกับไอเดียที่คล้ายกับละครเวทีและต้องอาศัยการจัดแสง ทุกช่วงเวลาที่เราถูกจับตามอง มันจะรู้สึกอึดอัดมาก เราต้องเรียนรู้ในมุมของสถาปัตยกรรมที่สะท้อนความรุนแรง สีสัน และรายละเอียดที่มีความเกี่ยวข้องกัน เราสร้างทุกอย่างขึ้นบนฉากในโรงถ่าย บรรยากาศภายในให้ความรู้สึกโดดเดี่ยว มันน่าสนใจว่าจะพลิกร่างกายและการแสดงของพวกเขาอย่างไร ท่าทางที่แสดงออกมาตอนอยู่ในที่แห่งนี้และการถูกจับตามอง 

 

ดาโกต้า แฟนนิ่ง: จุดประสงค์ของกรงล้อมนี้คือการปกป้องตัวละครทั้ง 4 ของเราจากวอทเชอร์ส และต้องหาทางให้วอทเชอร์เฝ้าดูพวกเขาได้ด้วย มันมีหน้าต่างบางอย่างที่จะเปลี่ยนเป็นกระจกในช่วงค่ำคืน ไมน่า, แดเนียล [รับบทโดยโอลิเวอร์ ฟินนีแกน], มาเดอลีน [รับบทโดยโอลเวน ฟูเอเร] และซิอาร่า [รับบทโดย จอร์จิน่า แคมป์เบล] ไม่สามารถมองเห็นด้านนอกได้ แต่สิ่งที่อยู่ด้านนอกในป่าสามารถมองเห็นได้ ตอนแรกเราถ่ายทำส่วนใหญ่กับกระจก บรรยากาศจะเหมือนเรามองดูตัวเอง ช่วงแรกจะรู้สึกแปลกนิดหน่อย แต่มันก็ช่วยเราได้ด้วย เพราะมันยิ่งเพิ่มความอึดอัดให้ตัวละครได้มากยิ่งขึ้น เราต้องถ่ายทำในฉากนั้นแบบมีกระจกอยู่ด้านนอกด้วย เพื่อให้กล้องกลายเป็นมุมมองของวอทเชอร์ส มันคือโลกที่เต็มไปด้วยความน่าสนใจที่ทำให้เราอินกับมันได้ ที่เห็นชัดเจนคือเวลาที่เราสร้างอะไรสักอย่างโดยอาศัยวิชวลเอ็ฟเฟ็กต์ เราไม่รู้ว่าทุกอย่างจะออกมาเป็นแบบไหน การรับบทไมน่า เธอต้องอยู่ร่วมกับคนอื่นที่ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเป็นส่วนใหญ่ ต้องถ่ายทอดความไม่มั่นใจนั้นออกมาให้ได้ในแบบที่เราไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร… ฉันต้องสวมบทบาทนั้นค่ะ มันช่วยเพิ่มระดับความไม่รู้อะไรเลยได้มาก เป็นฉากที่เท่มากและอาจเป็นฉากแปลกประหลาดที่สุดฉากหนึ่งที่ฉันเคยแสดงเลยค่ะ  

 

การสร้างไมน่า

อีชานา ชามาลาน: การสร้างไมน่าเป็นขั้นตอนที่มีความน่าสนใจมาก เพราะฉันคิดว่าเธอไม่มีตัวตนจริงได้จนกระทั่งเราเริ่มถ่ายทำกัน เธอดูคลุมเครือสำหรับฉันแต่ไมน่าคือตัวแทนของผู้ชมค่ะ เธอพูดถึงการเป็นวัยรุ่นในโลกสมัยใหม่ ฉันคิดว่าในหลายด้านเธอสะท้อนถึงความเกลียดชังมนุษย์และการแยกตัวออกจากกันอย่างที่หลายคนรู้สึกในยุคปัจจุบัน สุดท้ายสิ่งที่ฉันรักในตัวไมน่าคือประสบการณ์นี้เปลี่ยนแปลงเธอไปอย่างไร เมื่อดาโกต้าก้าวเข้ามา เธอถ่ายทอดตัวตนให้เห็นโดยละเอียด อันที่จริงเธอเป็นหญิงสาวที่เท่มาก เธอต่อชิ้นส่วนสุดท้ายได้อย่างลงตัวและทำให้ไมน่ามีตัวตนจับต้องได้สำหรับเรา 

 

ดาโกต้า แฟนนิ่ง: ไมน่าเป็นหญิงสาวที่อยู่ในช่วงชีวิตที่หยุดนิ่ง เธอกำลังค้นหาบางสิ่งและก้าวเข้ามาสัมผัสกับเรื่องราวเหนือธรรมชาติ แต่ฉันเข้าใจคำว่า “ช่วงระหว่าง” ชีวิตวัยรุ่นได้เป็นอย่างดี เราไม่ใช่เด็กเกินไปแต่ก็ยังอายุไม่มากพอ พยายามค้นหาตัวเองและสิ่งที่อยากทำ ฉันมองเห็นได้ในตัวละครนั้นและบอกกับอีชานา ฉันคิดว่าเราทั้งคู่เข้าใจมันได้ดีค่ะ การได้พบกับอีชานาและพูดคุยกับเธอ เธอมีความเป็นมืออาชีพ มีความสร้างสรรค์ และอินกับโลกใบนี้เป็นอย่างมาก การได้คุยกับเธอเหมือนได้แรงผลักดันและนั่นคือสิ่งที่ทำให้ฉันอยากมารับบทนี้ค่ะ 

 

เราได้พบไมน่าทำงานที่เพ็ทช็อปในแกลเวย์ ซึ่งเป็นอะไรที่สนุกมาก เธออยู่ในช่วงที่พบทางแยกของชีวิต คุณจะเข้าใจได้อย่างรวดเร็วว่าเธอสูญเสียคุณแม่ไปและห่างไกลจากครอบครัวของเธอ คุณจะประกอบเรื่องราวเข้าด้วยกันได้ เธอต้องจากบ้านมาที่แกลเวย์ อาจจะเพื่อดึงตัวเองออกจากบางสิ่ง เธออยู่ในช่วงเวลานั้นของชีวิต… มีทั้งความโดดเดี่ยวและอ้างว้าง ค่อนข้างชินชาด้วยซ้ำไป พูดได้เลยว่าเธอกำลังเดินทางไปบนโลกและพยายามค้นหาบางอย่าง 

 

คนอื่นในกรงขัง…

อีชานา ชามาลาน: ขั้นตอนการเลือกนักแสดงมีความวิเศษมากค่ะ สำหรับการมองหา “4 คนสำคัญ” ไมน่า, มาเดอลีน, ซิอาร่า และแดเนียล เรามีแนวทางแต่ละตัวละครต่างกันไป มันสนุกมากจริงๆ ค่ะ โอลิเวอร์ผู้รับบทแดเนียลเป็นคนน่าทึ่งมาก เขาเหลือเชื่อจริงๆ เราออดิชั่นนักแสดงหนุ่มกันหลายคน มีนักแสดงหลายคนที่สามารถรับบทนั้นได้ จากนั้นพอเขาส่งเทปของตัวเองเข้ามา… เขาคือคนที่ใช่เลยค่ะ ไม่มีใครอื่นในสายตาอีกเลย มันเป็นช่วงเวลาที่เราผ่านขั้นตอนนั้นกันมาอย่างยาวนาน จากนั้นก็เจอคนที่ใช่ ชื่อของจอร์จิน่าสะดุดตาพวกเขา เรารู้สึกดีมากที่ได้พบกัน ตอนที่พบกันครั้งนั้นเหมือนฉันเห็นซิอาร่า เธอเป็นคนน่ารัก อ่อนโยน และสวย มีครบทุกอย่างที่ฉันต้องการให้ซิอาร่าเป็นเลยค่ะ และฉันรู้ว่าเธอคือคนที่ช่ ดาโกต้าคือชื่อเดียวที่อยู่ในความคิดของฉันสำหรับบทไมน่า เธอคือคนที่เราต่อสู้เพื่อให้ได้มา เธอเหมาะกับตัวละครนั้นสำหรับเราจริงๆ การออดิชั่นของโอลเวนมีความวิเศษมาก แต่กลับเป็นคนที่มีเพียงไม่กี่คนเอ่ยถึง เธอมีความละเอียดอ่อนไม่เหมือนใคร เธอสะท้อนถึงความเป็นธรรมชาติในหนังเรื่องนี้ได้ เธอคือชิ้นส่วนสุดท้ายที่ช่วยสร้างโทนเรื่องขึ้นมา

 

ดาโกต้า แฟนนิ่ง: ไมน่าเดินทางมาบรรจบกับตัวละครอื่นครั้งแรกโดยการถูกดูดเข้ามาในป่าแห่งนี้ และบังเอิญพบสิ่งที่เธอมารู้ทีหลังว่ามันเรียกว่ากรงขัง ซึ่งมันเป็นโครงสร้างแปลกประหลาด เธอถูกดึงเข้าไปนั้น ประตูปิดล็อค เธอได้พบกับตัวละครทั้ง 3 ตอนแรกเธอสติแตกเพราะพวกเขาและสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างกัน มันรู้สึกเหมือนเรื่องจริงและเต็มไปด้วยความสงสัย มันมีกฎแปลกๆ ที่เธอต้องยอมจำนน ไม่สามารถอธิบายสถานการณ์อะไรได้เลย ส่วนมาเดอลีน ซาอร่า และแดเนียลเองก็อธิบายไม่ได้เช่นกัน ทำให้ไมน่ายิ่งรู้สึกอึดอัด 

 

เธอถูกโยนเข้าไปอยู่ในโลกประหลาดของพวกเขา และจำใจต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอด ตอนแรกเธอเฝ้าระวังทั้ง 3 คนมาก ไม่แน่ใจว่าอะไรคือเรื่องจริงและอะไรคือเรื่องไม่จริง 

 

การร่วมงานกับโอลเวน จอร์จิน่า และโอลิเวอร์นับเป็นเรื่องที่ดีมาก พวกเขาเป็นสุดยอดนักแสดงและคนที่น่ารัก เราจะมีวันที่ต้องพบความท้าทาย มีการถ่ายทำกันในป่าหนาวเย็น ต้องวิ่งผ่านความหนาวและเปียกแฉะ โอลเวนคอยสร้างแรงกระตุ้นได้ดีมากเลยค่ะ เธอเป็นคนมีพลังบวกตลอดและพร้อมลุยกับทุกสิ่ง มันห้ามไม่ได้เลยที่จะซึมซับพลังนั้นมาด้วย จอร์จิน่าก็มีความน่ารักและอ่อนโยนมาก เธอทำให้คนอื่นหัวเราะตามได้มากที่สุด และฉันก็รู้สึกหลงใหลโอลิเวอร์ด้วยค่ะ เขาเป็นคนที่เก่งและฉันคิดว่าเขามีอนาคตที่สดใสรออยู่แน่นอน ฉันดีใจมากที่ได้รู้จักพวกเขา 

 

การร่วมงานกัน

อีชานา ชามาลาน: ตอนนี้คุณพ่อกับฉันร่วมงานกันมา 2-3 ปีแล้วค่ะ เราหาจุดลงตัวกันได้เป็นอย่างดี มันมีทั้งความท้าทายและความงดงาม เพราะเราทั้งคู่ต่างเป็นศิลปินและใส่ใจกันอย่างลึกซึ้งมาก ในหนังเรื่องนี้มันมีความพิเศษมาก ฉันยิ่งเคารพเขาในฐานะผู้สร้างภาพยนตร์มากขึ้น ในแง่ของความแม่นยำและความชำนาญด้านอุปกรณ์ต่างๆ ช่วงเวลาที่ฉันได้พบกับความท้าทายและความมีพลัง คือการได้เห็นการทำงานของเขาอย่างง่ายดายและฉลาด มันวิเศษมากค่ะเมื่อได้นึกถึงมัน

 

เอ็ม. ไนท์ ชามาลาน: ขอผมเล่าเรื่องอีชานาให้ฟังสักนิด มีบางอย่างที่ผมสังเกตเห็นได้ในฐานะพ่อ แต่มีความเป็นพื่อนร่วมงานคนสำคัญในการถ่ายทอดเรื่องราวมากกว่า ผมสังเกตเห็นตลอดว่าเธอเริ่มจากความรู้สึกที่มีต่อสิ่งของ เข้าไปสัมผัสรายละเอียด สังเกตที่โครงสร้างและรูปร่าง เธอเคยผ่านการฝึกบัลเลต์มาก่อนจึงมีความคลาสสิคอยู่ในตัวเธอ การได้เห็นเธอเติบโตขึ้น มีส่วนร่วมในการผลิตผลงาน แฟชั่น และวาดภาพอย่างชัดเจน เธอมาพร้อมกับภาพเหล่านี้ สัตว์ประหลาดพวกนี้ พอเธอเริ่มเขียนบทฯ ผมพูดขึ้นว่า “รู้ไหม มีศิลปะแขนงหนึ่งที่ลูกสามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้ทุกอย่าง” ผมรู้ว่าเธอจะต้องเป็นผู้สร้างภาพยนตร์ แต่ไม่เคยพูดแบบนั้นออกไป ผมอยากให้เธอเติบโตขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ 

 

ตอนที่เธอเริ่มกลายเป็นนักเล่าเรื่องและเริ่มเขียนบทฯ เธอยิ่งเริ่มหลงใหลในผลงานแนวนี้ ชอบใช้จินตนาการ เธอมีความถนัดด้านนี้เป็นอย่างดี แม้แต่ผลงานหลายตอนที่กำกับฯ ในเรื่อง “Servant” ก็ต้องใช้จินตนาการเข้ามาช่วยอยู่บ้าง เธอชอบการสร้างโลกขึ้นมา หากนี่เป็นภาพยนตร์ของผม แนวทางคงจะต่างออกไป อิชานาและเฟอร์เดียมาพร้อมกับจินตนาการของเรื่องราวนี้ มีการสร้างโลกขึ้นมาจากทั้งในหนังสือและบทภาพยนตร์ของเธอเยอะมาก รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ กลายเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ เราแค่ต้องเดินตามเธอไป ผมสังเกตเห็นว่าตอนที่เราถ่ายทำฉากในป่ากัน เธอพบกับมุมที่ลงตัวในป่า มุมที่เหมาะสมจะนำมาเล่าเรื่องในฉากนี้ เธอเห็นใบไม้ในแบบนี้และกิ่งไม้มีการโน้มตัวในแบบนี้ เธอเห็นภาพทุกอย่างชัดเจนและมันทำให้เธอรู้สึกตื่นเต้น คุณจะเห็นได้เลยว่ามันทำให้เธอมีความสุขมาก เรื่องราวที่เต็มไปด้วยรายละเอียดต่างๆ ในเรื่องนี้ทำให้เธอได้ถ่ายทอดมุมมองที่เธอมีต่อโลกออกมาให้เห็น

 

จินตนาการของผู้กำกับฯ…

อีชานา ชามาลาน: ในฐานะของผู้หญิงคนหนึ่ง แทบจะเลี่ยงไม่ได้เลยที่จะมีไอเดียต่างๆ แบบผู้หญิง ด้วยความเป็นผู้หญิงและความเป็นแม่ที่แทรกซึมอยู่ในสิ่งที่ฉันเขียนลงไป และกลายเป็นประเด็นสำคัญของเรื่อง สำหรับฉันเรื่องราวในมุมคุณแม่/ลูกสาวคือเรื่องระหว่างตัวละครมาเดอลีนและไมน่า มันกลายเป็นองค์ประกอบสำคัญ แต่นี่ไม่ใช่เรื่องราวสำหรับผู้ชมผู้หญิงเท่านั้น มันมีความบึกบึน กล้าหาญ แข็งแกร่งอยู่ในเรื่องด้วย ผู้หญิงทุกคนในเรื่องนี้มีครบทุกอย่าง พวกเธอมีพลังมหาศาล ฉันหวังว่ามันจะมีอะไรมากกว่าปกติทั่วไปค่ะ

 

ดาโกต้า แฟนนิ่ง: จินตนาการของอิชานาสำหรับโปรเจ็กต์นี้ชัดเจนมากตั้งแต่ช่วงเริ่มต้น เป็นเพราะพื้นฐานครอบครัวของเธอด้วย ฉันคิดว่าเธอรักในเรื่องเหนือธรรมชาติแบบนี้ มีความลึกลับและมีเรื่องราวในตำนาน เธอแสดงออกชัดเจนว่าต้องการอะไร และสไตล์การกำกับฯ ของเธอก็ชัดเจนมาก เธอรู้ว่ากำลังมองหาอะไรและต้องการอะไร… และเธอเป็นคนน่ารัก ใจดีด้วย ฉันดีใจมากที่ได้รู้จักและทำงานร่วมกับเธอ ฉันตื่นเต้นที่ได้เห็นจินตนาการของเธอเป็นรูปร่างขึ้นมาได้จริง 

 

ประเด็นต่างๆ ในเรื่อง

อีชานา ชามาลาน: แม้จะอิงมาจากนิยายไอริช แต่ฉันคิดว่าเป็นเนื้อเรื่องที่พบเจอได้ทั่วไป เรื่องราวของครอบครัวที่เป็นจุดสำคัญของเรื่อง มีเรื่องราวที่เกิดขึ้นในครอบครัวและความสัมพันธ์ของมนุษย์ที่เป็นหัวใจของทุกอย่าง ในเรื่องพวกเขาคือครอบครัวเดียวกันจริงๆ แม้จะมีความแฟนตาซี ระทึกขวัญ และความสยองก็ตาม ทุกอย่างรอบตัวพวกเขาทำให้ฉันคิดว่ามันขึ้นอยู่กับทุกคนเกี่ยวข้องกันอย่างไร และจะหาทางเข้าถึงโลกที่ยากจะเข้าไปได้อย่างไร

 

ดาโกต้า แฟนนิ่ง: ฉันคิดว่ามันเรียกความสนใจจากคนรักความตื่นเต้นและคนรักความสยองได้แน่นอนค่ะ มันมีหลายมุมในเรื่องและมีการเล่นกับจิตใจด้วย ฉันคิดว่าในภาพยนตร์ส่วนใหญ่คุณไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าตัวเองกำลังกลัวอะไร แต่คุณรู้สึกกลัว ฉันรักภาพยนตร์แบบนั้นค่ะ มันมีรายละเอียดต่างๆ ที่สร้างความตื่นเต้นและความสยองให้ภาพยนตร์ แค่ต้องมีปริมาณความกลัวและความรุนแรงที่เหมาะสม แต่ต้องผสมความละเอียดอ่อนลงไปด้วย พร้อมทั้งการผสมเข้ากับตำนานไอริช ทำให้เกิดการผสมผสานที่วิเศษมากเลยค่ะ

 

รายละเอียดการถ่ายทำ

 

ตั้งแต่ช่วงแรกเริ่มของขั้นตอนการออกแบบ ผู้กำกับฯ / ผู้เขียนบทฯ อิชานา ไนท์ ชามาลาน และ ผู้ออกแบบฉาก เฟอร์เดีย เมอร์ฟี่ คำนึงถึงไอเดียสำคัญ 2 เรื่องหลักของภาพยนตร์เรื่อง “The Watchers” คือพื้นที่จำกัดและความกลัวที่ปิดทึบ “มันมีทั้งความรู้สึกอุ่นใจแต่ก็อยากหนีออกจากที่นี่… มันรู้สึกทั้งถูกคุมขังและปลอดภัย” เมอร์ฟี่อธิบาย “มีรายละเอียดหลักการของมันตรงที่มีการเฝ้าดูและถูกจับตา”

 

สำหรับภาพยนตร์เรื่อง “The Watchers’” ผู้กำกับฯ ชามาลานและผู้ออกแบบเมอร์ฟี่ได้แรงบันดาลใจจากผลงานที่สะท้อนการผสมผสานระหว่างเรื่องราวในตำนานกับฝันร้ายอันน่ากลัว เช่น ภาพยนตร์ของกีเยร์โม เดล โตโร เรื่อง “Pan’s Labyrinth,” ภาพยนตร์ของโรเบิร์ต เอ็กเกอร์ส “The Witch” และภาพยนตร์ของลาร์ วอน เทรียร์ “Antichrist” รวมถึงผลงานของช่างภาพอเมริกัน เกรกอรี่ ครูว์ดสัน

 

ผู้กำกับฯ ชามาลานได้ยกเครดิตให้ผู้กำกับภาพ อีไล อาเรนสัน สำหรับ “ความสามารถเชื่อมโยงโลกแห่งความจริงกับโลกในจินนาการเข้ากันได้อย่างงดงาม ซึ่งเป็นสิ่งที่ฉันตามหาในเรื่อง ‘The Watchers’” อาเรสันมีการอาศัยข้อมูลมากมายเพื่อสร้างภาพโดยรวมของหนังเรืองนี้ขึ้นมา เขาเล่าว่า “มีการผสมผสานสิ่งที่ดูเป็นของมีรสนิยมแต่ไม่ให้ดูหรูหราจนเกินไป เช่นภาพยนตร์ [เม็กซิโก] ของคาร์ลอส เรย์กาดาส, [ประเทศไทย] อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล แอนิเมะ มังงะ การ์ตูน และผลงานอีกมากมายที่เราอยากให้เห็น แต่โดยภาพรวมทั้งหมดเราอยากให้เรื่องนี้มีความเรียบง่าย แม้จะต้องอิงจากเรื่องราวในตำนาน แต่ก็อยู่บนความสมจริงมากที่สุด” 

 

กระจกกลายเป็นสิ่งที่นำมาใช้ในการออกแบบเรื่อง “The Watchers” อีกครั้ง เมื่อชามาลานวิเคราะห์คอนเซ็ปต์ของการสะท้อน และการสร้างพื้นที่ที่จะเกิดการสะท้อนระหว่างกันได้ เริ่มจากไมน่าและน้องสาวฝาแฝดของเธอ ลูซี่ จากนั้นเป็นห้องขังที่สร้างขึ้นมาและวอทเชอร์ได้สร้างรูเอาไว้ แน่นอนว่ากระจก 2 ด้านบนผนังห้องขัง วอทเชอร์สเองก็มีการเอากระจกออกและเปลี่ยนเป็นรูแทน

.

เนื่องจากมีข้อจำกัดเรื่องพื้นที่ในสตูดิโอสำหรับฉากต่างๆ ของเรื่อง “The Watchers” (ไม่สามารถใช้เครนยกกระจกขนาดใหญ่ให้อยู่ในตำแหน่งที่ต้องการได้) กระจกบานเดียวในฉากห้องขังนั้นคือกระจก 4 ชิ้น โดยแต่ละชิ้นต้องอาศัยทีมงาน 8 คนยก 

 

ระหว่างที่ Ballinastoe Woods ใน County Wicklow กลายเป็นป่า “ฮีโร่” ในเรื่อง “The Watchers” กองถ่ายต้องใช้ป่าหลายแห่งเพื่อให้ได้ภาพที่เหมาะสมกับเรื่อง อย่างที่ดีไซน์เนอร์เฟอร์เดีย เมอร์ฟี่กล่าวว่า  “สถานที่บางแห่งที่เราเลือกมีความโดดเด่นมาก บางแห่งดูให้ความอ่อนโยนกว่าที่อื่น บางแห่งชวนหลับใหลดูอ่อนแรง บางแห่งดูแข็งกระด้าง ต้นไม้มีความตรงดิ่ง มันดีมากที่ได้พบว่าไอร์แลนด์มีป่าที่สร้างหลายบรรยากาศให้ภาพยนตร์ได้”

 

ผู้ออกแบบฉากในเรื่อง “The Watchers” เฟอร์เดีย เมอร์ฟี่พบว่าตัวเองได้สร้างหลายหลุมเอาไว้ในฉาก และรวมผนังลอยเข้าไปในฉากด้วย เผื่อเวลาผู้กำกับภาพ อีไล อาเรนสัน จะติดตั้งกล้องเสริมระหว่างการถ่ายทำ

 

ผู้กำกับฯ “The Watchers” ชามาลานกล่าวว่า “เรามีการจัดแสงและรายละเอียดทุกอย่างเหมือนละครเวลา เพื่อจะเน้นย้ำจุดประสงค์ของห้องขัง มันคือสถานที่เพื่อให้คนเหล่านี้ถูกจับตามอง มันหมือนหอสังเกตการณ์ที่ทำหน้าที่ 2 ฝั่ง ทั้งจับตามองและถูกตัดสินทั้ง 2 ฝ่าย” ผู้ออกแบบฉากฯ เฟอร์เดีย เมอร์ฟี่ และผู้ตกแต่งฉาก จิล เทอร์เนอร์ จัดห้องขังให้เหมือนเวทีโดยมีภาพลวดลายในพื้นที่ต่างๆ ให้ความรู้สึกสมัยพระนางเจ้าวิคตอเรียทางเก้าอี้ด้านหลังและมีเครื่องเล่นแผ่นเสียงแบบสมัยก่อน ทีวีและโซฟาให้ความรู้สึกถึงช่วงยุคกลางศตวรรษตอนปลาย และมีเตียงเรียบๆ เหมือนยุค 1930 ภาพรวมทั้งหมดจะเน้นความเรียบง่าย มีของน้อยชิ้น การตกแต่งที่ไม่รบกวนผู้อาศัยทั้ง 4 เมื่อแสงแห่งช่วงค่ำคืนสว่างพอที่จะให้วอทเชอร์สมาเยือนช่วงค่ำคืน

 

ในเรื่อง “The Watchers” หลังจากที่ไมน่าอยู่ในห้องขังมาพักหนึ่ง เธอตกแต่งพื้นด้วยภาพวาดชาร์โคล ภาพวาดที่ทุกคนสร้างคืนมาในแต่ละค่ำคืน โดยใช้บันไดย้ายเฟอร์นิเจอร์และพัฒนาฝีมือศิลปิน ไม่ให้พวกเขาทำผลงานเปรอะเปื้อน

สิ่งสำคัญในเรื่อง  “The Watchers” คือห้องขังที่สร้างขึ้นในโรงถ่าย ขนาดภายในเทียบเท่าของจริงถูกสร้างขึ้นบนเขาใกล้กับ Luggala ใน County Wicklow ยอดเขามีความสูง 595 เมตร

 

ในเรื่อง “The Watchers” ไมน่าเริ่มเดินทางโดยส่งนกแก้วสีทองไปให้เจ้าของคนใหม่ จากนั้นรถของเธอเสียหลักทั้งไมน่าและนกแก้วได้เข้าไปในห้องขัง ผู้ดูแลสัตว์ในเรื่องจัดหานกแก้วไว้ 2 ตัวสำหรับการถ่ายทำ และทีมศิลป์ผลิตทั้งนกปลอมและนกอีกหลายตัวสำหรับอยู่ในกรง (สำหรับฉากต่างๆ ที่ต้องการ) การสร้างนกปลอม/กรงขังใช้เวลานาน 7 สัปดาห์ โดยต้องอาศัยเวลาเพื่อความแน่ใจว่าทุกเวอร์ชันจะมีความแนบเนียนระว่างการถ่ายทำ

 

สำหรับฉากออฟฟิศของอาจารย์มหาวิทยาลัยในเรื่อง “The Watchers” มีการใช้หนังสือมากกว่า 200 ลัง พร้อมด้วยของประดับตกแต่งฉากที่สำคัญอีกจำนวนมาก ทั้งหมดถูกขนขึ้นบันได 4 ขั้นที่สถาบัน 

 

The Watchers  – เดอะ วอทเชอร์ส6 มิถุนายนนี้ ในโรงภาพยนตร์  #AreYouWatching

ชมตัวอย่าง | https://youtu.be/5m-X-8lYiHw#TheWatchers #เดอะวอทเชอร์ส