#ปะฉะดะ #ShootItUp #ก้องห้วยไร่ #เบิ้ลปทุมราช #นุ๊กธนดล #ป๊ายปายโอริโอ้ #BlackDragonEntertainment #LandofSmilesFilm #ไผ่ร้อยกอโปรดักชั่น
อำนวยการสร้างโดย: แลนด์ ออฟ สไมล์, ไผ่ร้อยกอ
จัดจำหน่ายโดย: แบล็ค ดรากอน เอ็นเตอร์เทนเม้นท์
ปะฉะดะ
กำกับภาพยนตร์: อรุณ – ธีรเดช สพันอยู่
แนวภาพยนตร์: แอ็คชั่น คอมเมดี้
นักแสดงนำ: ก้อง ห้วยไร่ แสดงเป็น ผู้กองทับทิมทวย เบิ้ล ปทุมราช รับบทเป็น ห้าว หีบหินเหิน
นุ๊ก – ธนดล ศิริแวว แสดงเป็น มาด หมอนมีมาก เต๋า – สมชาย เข็มกลัด รับบทเป็น ผาด เพลิงผยอง
วาว – พราวภิชณ์ษา สุนทรารักษ์ แสดงเป็น เทียนหอม แบม – ปณิชดา คงสวรรยา รับบทเป็น ลินดา
วอ – จิราวัฒน์ วชิรศรัณย์ภัทร แสดงเป็น เกรียง ปาย – ฉัตรนภา เขียวขำ รับบทเป็น ปุ๊กปิ๊ก
ความยาว: 93 นาที
กำหนดฉาย: 25 เมษายน 2567
เรื่องย่อ “ห้าว” (เบิ้ล ปทุมราช) และ “มาด” (นุ๊ก-ธนดล) ชายหนุ่มไร้บ้านที่เติบโตในเมือง ๆ หนึ่งซึ่งมี 2 แก๊งคู่อริได้แก่ “แก๊งอินทรี” คุมโดย “ผาด เพลิงผยอง” (เต๋า-สมชาย) เป็น และ “แก๊งจงอาง” มี “เกรียง” (วอ-จิราวัฒน์) เป็นหัวหน้า ครองเมืองอยู่ โดยห้าวและมาดพยายามแทรกซึมเข้าแก๊งเหล่านี้ เพราะต่างก็มีความแค้นที่รอการชำระอยู่ในใจ โดยมี “ผู้กองทับทิมทวย” (ก้อง ห้วยไร่) อาสาถ่ายทอดวิชาการต่อสู้อย่างครบวงจร แต่มีเงื่อนไขว่า ห้าว และมาด ต้องปฏิบัติภารกิจลับ ของเขา ยิ่งนานวัน แก๊งอินทรี และแก๊งจงอาง ก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้น มิหนำซ้ำ ผาด และเกรียง ยังพรากคนที่พวกเขารักไปอีก ความโกรธแค้น ยิ่งปะทุมากขึ้นไปอีก ห้าวและมาดจะช่วยผู้กองทับทิมทวยได้สำเร็จหรือไม่ และความแค้นของเขา จะได้รับการสะสางหรือเปล่า ต้องไปลุ้นกันใน “ปะฉะดะ”
เบิ้ล ปทุมราช
ผู้อำนวยการสร้าง / รับบทเป็น “ห้าว”
ปีนี้ประเดิมต้นปีกับภาพยนตร์ “ปะฉะดะ” ในฐานะผู้อำนวยการสร้าง ที่ผ่านมา เบิ้ลทำแต่หนังแนวเพลงเป็นส่วนใหญ่ แต่ทำไมครั้งนี้ ถึงเปลี่ยนมาทำแนวแอ็คชั่น คอมเมดี้
- ผมคิดว่าเรื่องนี้เราทำได้ดีกว่าเดิมครับ เราได้ใช้ประสบการณ์ที่ผ่านมา รับมือกับสถานการณ์โควิด 19 รวมถึงการเข้ามาของการชมภาพยนตร์/ซีรีส์ผ่าน Streaming ทำให้เราได้เรียนรู้พฤติกรรมของคนไทย ว่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง ล้วนหล่อหลอมนำมาใช้ในเรื่องนี้ ถามว่าทำไมถึงเปลี่ยนแนวมาทำแอ็คชั่นคอมเมดี้ จริง ๆ ผมเคยให้สัมภาษณ์มานานแล้วว่าผมเป็นแฟนคลับของโจวชิงฉือ แต่เราไม่มีโอกาสได้ทำหนังแนวนี้สักที พอผมโตขึ้นก็คิดว่าถึงเวลาที่เราอยากทำตามฝันของตัวเอง และเราพร้อมกับการทำหนังแอ็คชั่นแล้ว แต่ “ปะฉะดะ” ไม่ใช่หนังแอ็คชั่นที่ซีจีบู๊ระห่ำนะครับ หนังของ โจวชิงฉือ จะดำเนินเรื่องในแบบชีวิตนำพาให้ไปเจอเหตุการณ์ต่าง ๆ แล้วมีความตลกและแอ็คชั่นมาสอดแทรกครับ ก็จะเป็นแนวแบบนี้มากกว่า เรื่องนี้ เหมือนเป็นการวางพื้นฐาน ในเรื่องต่อ ๆ ไป บริษัท แลนด์ ออฟ สไมล์ ฟิล์ม ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเน้นรอยยิ้มเป็นหลัก แต่ก็มีดราม่าเข้ามาแทรก เพื่อเพิ่มอรรถรสในการชมภาพยนตร์ครับ
การเตรียมงาน แอ็คชั่น เป็นอย่างไรบ้าง
- ส่วนตัวผมได้เรียนแอ็คชั่นจากซีรีส์หรือละคร แต่ผมไม่ได้ถึงขนาดพี่จา พนม เราเป็นแอ็คชั่นแบบติดตลก เหมือนเราไม่ได้ต่อสู้เก่ง แต่เราแค่สู้ไม่ถอยครับ
ที่ตัดสินใจทำแอ็คชั่นคอมเมดี้ เพราะจริง ๆ แล้วผู้กำกับ พี่อรุณ – ธีรเดช ถนัดแนวนี้ด้วยหรือเปล่า
- ผมทำงานกับพี่อรุณมาตลอด พี่อรุณถนัดแอ็คชั่น ถึงเขาจะไม่ได้เกิดจากคอมเมดี้ แต่พี่อรุณเก่งเรื่องมุกสด มุกตลกในหนังของผมไม่ได้เกิดจากการครูพักลักจำ แต่เกิดจากการเล่าเรื่องของหนังให้ตลกไปเรื่อย ๆ ผมเลยคิดว่า ถึงเวลาที่เราต้องเอาความถนัดแอ็คชั่นของพี่อรุณมาผสมเข้ากับความตลกมาต่อยอดได้แล้วครับ
ในส่วนของเนื้อเรื่องซึ่งเป็นแกนหลักของหนัง เบิ้ลและผู้กำกับพี่อรุณร่วมกันพัฒนาบทกันด้วยไหม
- เรามีบทประพันธ์เป็นโครงหลัก แล้วเราก็มาพัฒนาบทด้วยกัน ผมจะบอกพี่อรุณตลอดว่าผมต้องการอะไร และถ้าหนังต้องการอะไรเพิ่มให้บอกผม เราจะทำหนังประหยัดงบและดูถูกผู้ชมไม่ได้ หนังเรื่องหนึ่ง เหมือนการทำเพชรขาย เราไม่จำเป็นต้องเติมเพชรให้อิ่มจนล้น เราต้องปรับ และตัดให้รูปทรงสวยงามครับ
ในส่วนของนักแสดงครั้งนี้ มีการดึงศิลปินรุ่นน้อง นุ๊ก ธนดล มาร่วมงานด้วย เพราะอะไรถึงเลือกนุ๊กมาเล่นเรื่องนี้ และพอได้เห็น ฝีมือการแสดงของเขา เป็นอย่างไรบ้าง
- ผมอยากสร้างรากฐานคนรุ่นใหม่ขึ้นมา ผมเคยผ่านจุดที่ไม่เป็นที่ยอมรับในฐานะนักแสดง ตอนนั้นผมก็รู้สึกว่า ทุกคนมีครั้งแรกเสมอ ไม่มีใครเกิดมาแล้วเป็นนักแสดงเลยแต่โอกาสของผมดีกว่าคนอื่นตรงที่ ผมไม่ต้องไปวิ่งหาโอกาส เราสร้างโอกาสให้ตัวเอง เพราะเราเป็นผู้จัดอยู่แล้ว อย่างน้องนุ๊ก ธนดล ผมมองว่าน้องเขามีโอกาสพัฒนา เขาไม่มีประสบการณ์ แต่เราก็อยากยื่นโอกาสให้น้องได้ลองก้าวออกจากเซฟโซนของเขา ซึ่งนุ๊กก็เล่นออกมาได้ดี เขาสอบผ่านเลยครับ ถามว่าผมมีแนะนำเรื่องการแสดงบ้างไหม มีครับ เราสอนเทคนิคการแสดงหนังให้เขา แต่ขณะเดียวกันเขาขวนขวายไปเรียนการแสดงเอง เขาเลยมีความเข้าใจในตัวละครมากกว่าที่ผมคิดครับ
กับเรื่องนี้มีพี่ชายที่รู้ใจอย่าง ก้อง ห้วยไร่ มาร่วมงานด้วยเหมือนเดิม คิดว่าเบิ้ล และทีมงานมีดีอะไร ทำไมพี่ก้อง ถึงมาร่วมงานด้วยทุกครั้ง
- ถ้าผมเป็น โจวชิงฉือ พี่ก้องก็เหมือนอู๋ม่งต๊ะ เหมือนเป็นบัดดี้คู่ใจ ขาดกันไม่ได้ ถามว่าทีมงานของเรามีอะไรดี ทำไมพี่ก้องตกปากรับคำตลอด ผมมองว่างานทุกอย่างที่เราทำเกิดจากความสุขก่อน ถ้าเราทำหนัง เพื่อตอบโจทย์ คนไทย แน่นอนว่าประชากร 77 ล้านคน คงไม่ยอมรับเราทั้งหมดหรอกครับ แต่ในฐานะคนทำงาน แล้วมีความสุข ผมไม่ได้คิดอะไรเยอะ อันดับแรกผมกับพี่ก้องมีความสุขเราได้ใช้ชีวิตด้วยกัน ไม่ใช่ว่าเรา เอาชีวิตไปใช้กับหนัง เราทำงานแบบไม่เครียด ก็เลยทำให้อยากทำงานด้วยกันตลอด ไม่ว่าจะเป็นหนัง หรือเล่นคอนเสิร์ตครับ
ในฐานะนักแสดง เรื่องนี้ เบิ้ล รับบทเป็น “ห้าว” คาแร็คเตอร์เป็นอย่างไร /ห้าวต่างหรือใกล้เคียงกับเบิ้ลอย่างไรบ้าง
- ห้าวแทบจะไม่แตกต่างจากผมเลย ตลกโปกฮา เฟอะฟะ เวลาตั้งใจทำอะไรก็พยายามทำให้ดีกลับไม่ดี แต่พอไม่ตั้งใจกลับดีเฉย ตัวละคร “ห้าว” จะเป็นแบบนี้ เขามีปมด้อยตั้งแต่เด็ก คือเขาไม่มีพ่อแม่ดูแล แต่สุดท้าย เขาก็เติบโตมาได้และเป็นคนดี ถึงแม้จะใช้ชีวิตอยู่ในบ่อน แต่ก็มีจิตใจที่ใฝ่ดี ผู้กำกับ พี่อรุณเขียนบท “ห้าว” ให้มีคาแร็คเตอร์ใกล้เคียงกับตัวผมครับ เวลาแสดงเลยไม่ได้รู้สึกว่าต้องปรับอะไรเยอะมาก
พอมาเล่นฉากแอ็คชั่นเยอะ ๆ เป็นอย่างไรบ้าง
- รู้สึกรักนะครับ แต่ผมก็ยังไม่กล้าแอ็คชั่นเต็มขั้น ถามว่าตลกแอ็คชั่นแบบโบ๊ะบ๊ะยากไหม ผมว่ามันดีกว่าแอ็คชั่น ที่ใช้สลิง หรือแข็งแกร่งจนเหนื่อยล้านะ แนวโบ๊ะบ๊ะเราสามารถผิดพลาดได้เพราะเราไม่ใช่คนเก่ง ท่าไม่ต้องสวยก็ได้ เรายังมีข้อแก้ตัวแบบเนียน ๆ ได้ ระหว่างนี้เราก็เก็บประสบการณ์ไปเรื่อย ๆ วันนึงผมและทีม อาจพร้อมบู๊แบบจัดเต็ม และเป๊ะก็ได้นะครับ
ความยากลำบากในการทำงานครั้งนี้อยู่ตรงไหน
- ช่วงที่ถ่าย “ปะฉะดะ” ผมถ่ายซีรีส์บู๊แบบดราม่าไปด้วย ช่วงนั้นผมเครียดมาก เพราะในแต่ละเรื่องหุ่น หรือรูปร่างไม่เหมือนกัน ลำบากกว่าเรื่องของการเปลี่ยนอารมณ์อีก ช่วงนั้นเหนื่อยเลย บางทีกลับไปเล่นซีรีส์รูปร่างไม่ continue เดี๋ยวอ้วนเดี๋ยวผอม มันลำบากมาก ผมต้องดูแลเรื่องการกินและพักผ่อน นอกจากงานแสดง ผมยังมีงานทัวร์คอนเสิร์ตอีก ก็มีบ้างที่เรารู้สึกว่าทำอะไรหลายอย่างพร้อมกัน แล้วทำให้สมาธิไม่นิ่ง อย่างบางซีนที่เล่น “ปะฉะดะ” ผู้กำกับก็บอกว่าเล่นได้ดีแล้ว แต่ความรู้สึกของผม ผมว่ามันน่าจะดีกว่านี้ได้ แต่เพราะความเหนื่อยล้า เลยทำให้เราทำงานได้ไม่เต็มที่ ต่อให้เก่งที่ไหน พอเราทำงานรอบทิศเกินไป ร่างกายมันก็ไม่ไหวครับ
แว่วมาว่าเรื่องนี้มีเลิฟซีนกับน้องแบม ปณิชดา ด้วย ร้อนแรงขนาดไหน มีการเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
- ไม่หนักมากครับ เลิฟซีนมีแค่เหมือนเขาให้รางวัลที่เราปกป้องดูแลเขาครับ ในหนังเราจะให้เกียรติฝ่ายหญิงครับ ถามว่ามีเตรียมตัวอย่างไรบ้าง เพื่อให้ดูสนิทสนมกัน จริง ๆ แบมและผมมีผู้จัดการคนเดียวกัน เราเลยไม่ต้อง มาละลายพฤติกรรม เราเจอกันบ่อย ๆ อยู่แล้วครับ
คิดว่าเสน่ห์ของ “ปะฉะดะ” อยู่ตรงไหน ทำไมผู้ชมต้องไปดู /ฝากภาพยนตร์
- อยู่ที่ลายเส้นดำเนินเรื่องด้วยคอมเมดี้ แต่ไม่ได้คอมเมดี้จัดเกินไป มันมีเรื่องการสะท้อนชีวิต อารมณ์ ความสูญเสีย มีการแก้แค้นที่สมเหตุสมผล แต่ก็แทรกด้วยรอยยิ้ม ไม่ทำให้เราดาร์กไปกับซีนซีเรียสจนเกินไป และตัวละครทุกตัว มีความตลกและมุมเด่นของตัวเองครับ คาแร็คเตอร์แต่ละคนจะชัดเจน ก็ฝากติดตาม “ปะฉะดะ” ด้วยครับ เป็นการเปิดศักราชปีใหม่กับแนวหนังใหม่ ๆ ที่ “แลนด์ ออฟ สไมล์” ตั้งใจทำ ผมไม่ได้คาดหวังสูงมาก แต่ความตั้งใจ เต็มร้อยอยู่แล้วครับ
ผู้กำกับ อรุณ – ธีรเดช สพันอยู่
ทำไมถึงสนใจทำแนวแอ็คชั่นคอมเมดี้ “ปะฉะดะ”
- ก่อนหน้านี้ทำหนังแอ็คชั่นแนวพีเรียดอย่าง “ฮีโร่ต้มแซ่บ” ที่ออนแอร์ใน Prime มาแล้ว คราวนี้อยากเปลี่ยนทิศทาง การทำหนัง ที่ผ่านมาทำหนังเพลง หนังตลกอีสานมาแล้ว คราวนี้เลยอยากทำหนังแอ็คชั่นโดยให้นักแสดงเล่นแอ็ค ชั่นแบบจริงจัง แต่ไม่ถึงขั้นผาดโผน เราเป็นแอ็คชั่นสไตล์ปะฉะดะ ต่อสู้หมัดมวยแบบชาวบ้าน ๆ คนตีต่อยกันจริง ๆ แนวต่อสู้ชีวิต เหมือนพระเอกต้องเจออุปสรรคครั้งแล้วครั้งเล่า เขาจะข้ามสิ่งเหล่านั้นไปถึงที่หมายได้ยังไง ความสนุกของหนังอยู่ตรงนี้ครับ
พอได้มากำกับหนังแนวแอ็คชั่นที่พี่อรุณถนัด เป็นอย่างไรบ้าง
- ดีใจที่ได้กลับมาทำสายงานที่ถนัด ก็สมใจเราครับ
ในส่วนของความเป็นคอมเมดี้ของหนังที่ต้องล้อไปกับแอ็คชั่นด้วย มีการวางโครงเอาไว้อย่างไรบ้าง
- เส้นเรื่องเป็นดราม่า แต่เราเสริมความเป็นคอมเมดี้ด้วยคาแร็คเตอร์ของตัวละคร อย่าง ก้อง ห้วยไร่ ที่รับบทเป็นผู้กองทับทิมทวย เราแคสท์ติ้งให้เขาออกมาเป็นคอมเมดี้ เบิ้ลและนุ๊กจะมีความคอมเมดี้อยู่ช่วงแรก ๆ ที่ยังไม่จริงจังกับชีวิต จะเป็นความน่ารักของเบิ้ลกับนุ๊ก แต่หลังจากที่พวกเขาได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของแก๊งมาเฟีย เขาก็มีเป้าหมายอะไรสักอย่างที่ชัดเจน ทำให้เขาจะมีความดราม่าที่ต้องใช้ความสามารถทางการแสดงมากกว่าเดิม
เรื่องนี้มีการพบกันของซูเปอร์สตาร์ลูกทุ่ง 3 คน การวางบทของแต่ละคนค่อนข้างสำคัญ พี่อรุณมีเทคนิค ในการวางตัวละคร อย่างไรบ้าง
- เรื่องนี้ผมคิดพล็อตเรื่องเอง และผมรู้ความสามารถของนักแสดงแต่ละคนว่าเป็นอย่างไร เราก็เลยต้องสร้างเส้นเรื่อง ที่ไม่ไกลตัวเขามาก เพราะมีสิ่งหนึ่งที่ไกลตัวพวกเขาคือบู๊แอ็คชั่นอยู่แล้ว เราเลยอยากให้พวกเขาโฟกัสเรื่องแอ็คชั่น แต่น้อง ๆ ก็แอ็คชั่นออกมาให้ดี ในส่วนของบทบาทผมก็สร้างเส้นเรื่องให้ล้อไปตัวเขา ผู้กองทับทิมทวย แสดงโดย ก้อง ห้วยไร่ คาแร็คเตอร์ของทับทิมทวย จะเป็นคนเงียบขรึม จริงจัง ดุดัน บ้าระห่ำ ไม่เกรงกลัวใคร แต่ความตลกของเขา อยู่ตรงแคสติ้งที่เราหยิบใส่ให้เขา ก็อยากให้ไปดูกัน ในส่วนของ ห้าว รับบทโดย เบิ้ล ปทุมราช จะปากดี ขี้คุย ไม่เป็นโล้เป็นพาย ไม่มีอะไรดีเลย เอาเสียงและลีลาเข้าข่มคู่ต่อสู้ จะเป็นคนทะลึ่งตึงตัง สำหรับ มาด แสดงโดย นุ๊ก-ธนดล จะเป็นคนน่ารัก สนุกสนานไปกับเส้นเรื่องที่เราวางเอาไว้ ไปไหนเฮนั่นด้วยกัน สายลุย ใจถึงพึ่งได้
ทำไมเรื่องนี้ต้องเป็น ก้อง และ นุ๊ก มาแสดงนำ 2 คนนี้มีความพิเศษอย่างไร
- ตอนก้องดังใหม่ ๆ ผมกำกับละครเรื่องหนึ่ง แล้วน้องก็รับเล่นให้ พอมากำกับหนังเรื่อง “ฮักแพง” เขาก็มาเล่นให้ผม แล้วเขาก็เล่นให้ผมทุกเรื่อง เขาเป็นน้องที่น่ารักมากครับ ในส่วนของนุ๊ก ด้วยความที่ผมทำหนังอีสาน เราก็จะพา ศิลปินอีสาน ก้องก็แนะนำให้ลองดูน้องคนนี้นะ ผมก็ติดตามดูการเจริญเติบโตของเขามา 4 ปี ว่าเป็นอย่างไรบ้าง ก็ทำให้ผมรู้ว่า เขามีแฟนคลับที่แข็งแรงมาก และเขามีความสามารถรอบตัว เราก็เลยเชิญน้องมาแสดง ซึ่งน้องก็ดีใจ ที่ได้มีโอกาสร่วมงานกับทีมเราครับ
ที่ผ่านมาทำหนังเพลงมาเยอะ แต่พอต้องเอานักร้องมาเล่นแอ็คชั่น การกำกับเป็นอย่างไรบ้าง
- ได้ดังใจนะ เพราะผมรู้ว่าความสามารถของแต่ละคนประมาณไหน เราไม่ได้จัดท่ายากให้เขาเล่นมาก อย่างเบิ้ลก็ผ่านงานแอ็คชั่นมาจากซีรีส์ที่เขาเล่น ก็เลยมีประสบการณ์มาพอสมควร อย่างก้องเป็นคนมีความตั้งใจ เขาเคยเล่นบู๊ใน “ฮีโร่ต้มแซ่บ” มาแล้ว มีพื้นฐานพอสมควร ไม่มีอะไรน่าหนักใจครับ ส่วนนุ๊ก เขาเคยเรียนคิวบู๊ กับสตั้นท์มา และเขาเป็นคนเตะฟุตบอล ออกกำลังกายประจำ พอเขามีพื้นฐานมาประมาณหนึ่ง และมีความพร้อมของร่างกาย เขาเล่นแอ็คชั่นได้อย่างที่ผมต้องการครับ ทุกคนถือว่าสอบผ่านการเล่นแอ็คชั่น เราไม่ได้ให้เขาเล่นบู๊พิศดาร เราเน้นแอ็คชั่นที่สมจริง ยิงปืน เตะต่อยแบบที่คนทั่วไปที่เจอสถานการณ์คับขัน ถึงเวลาสู้ก็ต้องสู้ครับ
ในส่วนของเบิ้ล ช่วงที่ถ่าย “ปะฉะดะ” ก็มีถ่ายละครอยู่ด้วย มีความเหนื่อยในเรื่องของการ continue รูปร่าง
- ในซีรีส์เขาต้องขุนให้อ้วน แต่พอมาถ่ายหนังของผม เขาต้องรูปร่างทะมัดทะแมง โชคดีที่เขาเป็นคนอ้วนง่ายและผมง่าย เขาก็สามารถควบคุมรูปร่างได้ดี ชุดที่ใส่ถ่ายหนังก็ไม่ต้องแก้เลย มีวินัยในการทำงานมากครับ
เบิ้ลบอกว่าเรื่องนี้เป็นคอมเมดี้แบบโบ๊ะบ๊ะ ดูเหมือนจะไม่ยาก แต่ในทางกลับกัน นุ๊ก บอกว่าเหนื่อยมาก เลยอยากทราบ การเตรียมงาน ฉากแอ็คชั่นของเรื่องนี้จากผู้กำกับว่าเป็นอย่างไรบ้าง
- อย่างเบิ้ล เรารู้ว่าจะออกคิวอะไรให้น้องแสดง เราไม่ได้ผาดโผน เหาะเหิน เราทำคิวต่อสู้แบบประชิด คนธรรมดาที่มาต่อสู้ ก็จะมีความโบ๊ะบ๊ะ ส่วนนุ๊กเป็นคนมีความตั้งใจ ทำการบ้านทุกคิว บทที่เขาได้รับ ค่อนข้างหนักมาก มีดราม่าและแอ็คชั่น เขาจะเหนื่อย ทั้งแอ็คชั่น และการแสดงครับ
ในส่วนการแสดงของเบิ้ล ฉากดราม่าสามารถร้องไห้เหมือนสั่งได้
- เดี๋ยวนี้เบิ้ลเก่งแล้ว เข้าใจวิธีการร้องไห้โดยที่ไม่ต้องเค้นหรือบีบน้ำตา กลั่นออกมาจากความรู้สึกจริง ๆ แต่ก่อนเขาต้องหาวิธีการร้องไห้ กว่าจะไหลออกมาได้ใช้เวลานาน แต่เบิ้ลสามารถหาจุดตรงนี้เจอ ซึ่งถือว่า เป็นอะไรที่พัฒนาการก้าวหน้าขึ้นครับ
สำหรับ เต๋า สมชาย ที่มาเล่นเป็นมาเฟียด้วย
- ดีใจมากที่พอพี่เต๋าอ่านบทจบก็ตอบรับเล่นครับ ในเรื่องนี้เขารับบทเป็นเสือผาด คาแร็คเตอร์จะเป็นมาเฟียสไตล์อิตาลี ออกจิต ๆ นิดหนึ่ง เขาครีเอทการแสดงที่ช่วยเราได้เยอะเลย พี่เต๋าเล่นแบบเต็มร้อยทุกซีนทุกคัท ถือว่าโชคดีที่พี่เต๋ารับเล่น เพราะถ้าพี่เต๋าไม่ตกลง ก็นึกไม่ออกว่าจะหาใครมาเล่นแทนครับ
นอกจากนี้ก็มี ด้งเด้ง และ ตาต้าร์ ไทบ้าน มาร่วมแสดงด้วย
- คู่นี้เป็นเพื่อนของเบิ้ลครับ เราก็มอบบทสมุนคู่ใจของพี่เต๋าให้ ฉีกคาแร็คเตอร์ของเขาออกจากเรื่องที่ผ่านมาสนิท ตาต้าร์รับบทเป็น ชาติ ราชสีห์ จะเป็นมือขวาของเต๋า คาแร็คเตอร์ตาต้ารจะเหี้ยม ดุดัน ไม่เกรงกลัวใคร ความยากคือจะทำยังไงไม่ให้ดูตลก อย่างด้งเด้ง ปกติคนเห็นหน้าเขาก็จะขำแล้ว ในเรื่องนี้ก็จะให้เขาโหดแบบตลก ๆ เดาอารมณ์ยาก
พี่อรุณคิดว่าความน่าสนใจของ “ปะฉะดะ” อยู่ตรงไหน
- ผมคิดหนังเรื่องนี้ขึ้นมา ขายแคสติ้งให้แตกต่างออกไป ให้เห็นนักแสดงนำเล่นแอ็คชั่นที่เป็นคอมเมดี้ มีแอ็คชั่นจริงจังและมีดราม่าด้วย ซึ่งหนังแนวนี้พวกเขาไม่เคยเล่นที่ไหน เขาเป็นนักร้อง แต่ก็สามารถมาเป็น นักแสดงอาชีพ ถ่ายทอดสิ่งที่เราต้องการได้อย่างดีครับ
นุ๊ก – ธนดล ศิริแวว
รับบทเป็น “มาด”
ปะฉะดะ เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่นุ๊กต้องออกมาเผชิญการทำงานจากทีมที่เราคุ้นเคย เพราะอะไร ทำให้นุ๊กตัดสินใจ มาทำงานนอกบ้านครั้งแรก และใช้เวลาในการตัดสินใจนานไหม
- เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่ต้องออกมาเผชิญโลกภายนอก ที่ตัดสินใจออกมาทำงานนอกบ้านครั้งแรกเลย เพราะเพื่อน ๆ พี่ ๆ ครับ อย่างพี่ก้อง ห้วยไร่ และ เบิ้ล ปทุมราช ครับ และเราอยากยกระดับตัวเอง เราไม่เคยลองงานแสดง แบบจริงจังมาก่อน เบิ้ลก็มาชวนผมให้เล่นหนังเรื่องนี้ เขาเป็นผู้จัดเอง เขาเห็นผมสร้างผลงานแต่กับบ้านตัวเอง มาเยอะแล้ว เขาอยากให้ผมออกมาหาประสบการณ์บ้าง เบิ้ลอยากเห็นผมออกมาสู่โลกที่กว้างกว่าเดิมครับ ใช้เวลาตัดสินใจไม่กี่วันเองครับ
นุ๊กมีความหวั่น ๆ บ้างไหม กับการทำงานนอกบ้านครั้งแรก
- ไม่กลัวเลยครับ เราแค่กลัวว่าเราจะทำได้ไหม เราจะทำออกมาได้ดีหรือเปล่า กลัวแค่นี้เลยครับ
พอต้องมาทำงานนอกบ้าน เรามีการเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ทำการบ้านหนักแค่ไหน
- ทำการบ้านหนักมากครับ แต่ก่อนอื่นขอบอกก่อนว่านุ๊กชื่นชอบพี่โตโน่-ภาคิน มาก เขาแสดงภาพยนตร์ หรือละครได้ดีมาก เวลาทำการบ้านก็จะเปิดดูผลงานของพี่โตโน่ นั่งดูซีนดราม่าและบู๊ควบคู่ไปกับบทที่ผู้กำกับ พี่อรุณ ส่งมาให้ด้วย นุ๊กไม่ได้เสพคาแร็คเตอร์พี่โตโน่นะ เราจะดูแค่บางซีนว่าเขามีการขยี้อารมณ์อย่างไร นอกจากนี้ก็ดูละคร “พลิกดินสู่ดาว” ที่นำแสดงโดยพี่เวียร์ – ศุกลวัฒน์ ด้วยครับ
ในเรื่องนี้ “นุ๊ก” รับบทเป็น “มาด” คาแร็คเตอร์มาดเป็นอย่างไร นุ๊กตีความบทของเขาอย่างไรบ้าง มีการสร้างแบ็คกราวนด์ ตัวละครไหม
- บท “มาด” ที่ผมได้รับ ส่วนใหญ่จะเน้นตลก คาแร็คเตอร์ “มาด” จะเป็นขาลุย อารมณ์ร้อน จริงใจ และเป็น สุภาพบุรุษ แต่ก็มีความตลกเฮฮาด้วย เวลาแสดงเป็น “มาด” ไม่ต่างกับผมเลย เพราะพี่อรุณ เขียนบท “มาด” มาจากตัวของผม ถามว่าใจร้อนเหมือนผมไหม ก็เหมือนเลยครับ ในส่วนของการแสดง เรื่องคาแร็คเตอร์ไม่หนักใจ จะหนักใจเรื่องการท่องบทมากกว่า เพราะบางทีบทยาวก็จะต้องใช้สมาธิเยอะพอสมควร จำได้ว่าซีนแรก พี่อรุณก็จับผมไปเล่นฉากดราม่าเลย และต้องเข้าซีนกันนางเอก วาว พราวภิชณ์ษา ด้วย ซึ่งผมเคยเจอกับวาว ตอนที่ถ่ายฟิตติ้งเท่านั้น แต่โชคดีที่วาวส่งอารมณ์ได้ดี เขาเก่งครับ ถ้านางเอกก็ใหม่ ผมก็ใหม่ คงแย่เหมือนกันครับ
ตอนที่ทราบว่าต้องร่วมงานกับนักร้องรุ่นพี่อย่าง เบิ้ล ปทุมราช และ ก้อง ห้วยไร่ เป็นอย่างไรบ้าง / จำความรู้สึกแรก ที่เข้าฉากด้วยกันได้ไหม เป็นอย่างไรบ้าง
- ผมแค่กลัวเรื่องการจำบทเท่านั้น แต่เรื่องการแสดงไม่เกร็งเลยครับ พี่เบิ้ลและพี่ก้องให้คำแนะนำการแสดง ตั้งแต่วันแรกเลย สอนเทคนิคในการจำบท เขาบอกว่าถ้ามีอะไรที่เพิ่มเติมตามน้ำไปได้ หยอดมุกเพิ่มได้เราเสริม ไปได้เลยนะ เราสามารถปรับคำพูดให้เป็นตัวเอง เข้าปากเราได้เพียงแต่เนื้อหาต้องอยู่ในแนวที่ผู้กำกับได้วางเอาไว้ครับ อย่างพี่ก้องจะบอก่วาการจำบท อย่าไปจำทุกตัวอักษร แต่ให้ผมวางเค้าโครงเรื่องเอาไว้ แค่ตบให้จบ และไปต่อให้ได้ก็พอครับ เอาตรง ๆ ผมเป็นคนคิดมากครับ กลัวจะทำได้ไม่ดี เราก็เป็นเด็กใหม่ด้วย ซึ่งเทคนิคที่เบิ้ล และพี่ก้องแนะนำช่วยผมได้เยอะเลยครับ
เรื่องนี้ต้องเจองานหนักคือเล่นหนังแอ็คชั่น ความพร้อมในการฟิตร่างกายเป็นยังไงบ้าง
- นุ๊กไม่ถึงขั้นวางตารางฟิตหุ่นนะครับ เพราะนุ๊กเตะฟุตบอลและตะกร้อ ตีแบดมินตั้น เราฟิตอยู่แล้วครับ พอมาเล่นแอ็คชั่นเลยไม่เหนื่อยครับ แต่ผมจะกังวลเรื่องการแสดงมากกว่า ดังนั้นผมจะทำการบ้านก่อนทุกครั้ง จะมีการซ้อมบทที่เราจะเล่นออกมากับพี่ผู้ช่วย ขณะเดียวกันก็จะคุยกับพี่อรุณก่อนว่าเล่นแบบนี้โอเคไหม แล้วก็มีซ้อมและนั่งพูดคนเดียวกับกระจกก็มีครับ เลยทำให้ผมรู้เลยว่ารายละเอียดงานค่อนข้างเยอะครับ
ผู้กำกับ พี่อรุณ ได้มีการแนะนำเวลาเล่นฉากบู๊อย่างไรบ้าง
- พี่อรุณเซฟนักแสดงมาก ๆ ก่อนจะถ่ายทำต้องซ้อมก่อนทุกครั้ง แล้วก็ซ้อมจริง กระโดดจริง เพื่อความปลอดภัย ของทีมงานและนักแสดง แต่ก็มีผิดคิวเจ็บตัวเล็ก ๆ น้อย ๆ บ้าง อย่างฉากปิดกล้อง เป็นฉากที่นุ๊ก และเบิ้ล จะไปต่อยพี่ก้อง แต่ช่วง 6 – 7 เทคแรก พี่ก้องไม่กล้าตบหน้านุ๊ก เขากลัวน้องเจ็บ ผมเลยบอกให้พี่ก้องทำเต็มที่ ฉากนั้นพี่ก้องจะต่อยผม แล้วผมกำลังก้ม คางของผมเลยไปโดนเขาพี่ก้อง แล้วเราก็เล่นยาวต่อไม่ขอคัท แต่ก็ไม่เป็นอะไรมาก ไกลหัวใจครับ
หนังเรื่องนี้พัฒนาการแสดงของเราอย่างไรบ้าง
- พัฒนาเต็มร้อยเลยครับ นุ๊กยังไม่เคยกล้าออกไปแสดงกับใคร แต่พอออกมาปุ๊บเราได้ร่วมงานกับพี่อรุณ ผู้กำกับ, พี่เบิ้ล และ พี่ก้อง ซึ่งคนรู้จักเขาทั่วประเทศ นุ๊กเป็นแค่เด็กคนหนึ่งที่ได้มีโอกาสมาร่วมงานกับเขา เราโนเนม ด้านการแสดงมาก แต่เราได้คำแนะนำจากมืออาชีพ พี่อรุณ, พี่เบิ้ล และ พี่ก้อง ทำให้เราได้เติบโต และพัฒนา ด้านการแสดงมากขึ้นครับ
ในเรื่องนี้นุ๊กต้องเล่นคู่กับ “วาว” มีฉากกุ๊กกิ๊กบ้างไหม/เวลาเข้าฉากมีเขินบ้างหรือเปล่า
- ก็มีเขินนิด ๆ ครับ วาวก็น่ารัก ผมก็มีหลุดเขินบ้าง แต่เรื่องนี้ไม่ได้มีเลิฟซีนหนัก ๆ มีแค่ฉากหวาน ๆ มากกว่า อย่างในเรื่องจะมีฉากที่ผมต้องไปจีบเขา ต้องกล้า ๆ นะ แต่ผมดันไปเขิน ก็ต้องเก็ก ๆ เกร็ง ๆ ไป ไม่ได้เทคเยอะมาก แค่ประมาณ 2 เทคเอง ผมเก็บอาการเก่งครับ
นุ๊กคิดว่าเสน่ห์ของ ปะฉะดะ อยู่ตรงไหน
- ความครบรสครับ ไม่ได้มีแค่บู๊หรือตลก ทุกคนคิดว่า “ปะฉะดะ” เป็นหนังตลกและบู๊ ทุกคนคงไม่คิดว่าจะมีฉากดราม่า มีฉากที่ผมต้องร้องไห้ด้วย พี่อรุณเขียนบทได้ดี ขำก็ขำสุด ดราม่าก็ดราม่าสุด และบู๊ขึ้นสลิง ได้ทำอะไรหลาย ๆ อย่างที่ไม่เคยทำ ผมสนุกนะครับ พอได้ทำงานที่เรารัก หนักยังไงเราก็แค่เหนื่อย ผมไม่รู้ว่าเราจะมีโอกาสทำงาน แบบนี้อีกเมื่อไหร่ ในเมื่อเรามีโอกาส เราก็ต้องทำให้เต็มที่ที่สุดครับ
ก้อง ห้วยไร่
รับบทเป็น ผู้กองทับทิมทวย
ในเรื่องนี้รับบทเป็นใคร
- รับบทเป็นผู้กองทับทิมทวยครับ เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ บุคลิกดุดัน ไม่เกรงกลัวใคร ปลอมตัวเข้ามาในแก๊งมาเฟีย เพื่อมาจัดการเรื่องที่เก็บค่าคุ้มครอง
ตั้งแต่ถ่ายมาชอบฉากไหนมากที่สุด
- ชอบการเล่นบู๊ เพราะผมไม่ค่อยได้เล่นบู๊ จำได้ว่ามีอยู่ครั้งหนึ่งไปเล่นหนังที่มีบทบู๊ด้วย แล้ว พี่จา พนม เห็นแล้วขวางหูขวางตา เขาบอกว่าจะเทรนคิวบู๊ให้ แต่ก็ยังไม่มีโอกาสสักที พอมาเล่น “ปะฉะดะ” ได้เล่นบู๊อีกครั้ง ก็ไม่รู้จะออกมาเป็นอย่างไร อาจจะเก้งก้างเหมือนเดิมก็ได้ แต่ผมก็ชอบครับ สนุกดีครับ
ให้เผานักแสดงคนหนึ่งในเรื่อง อยากจะเม้าท์ใคร
- คุณอาทิตย์ สมน้อย ครับ เขาชอบคิดว่าตัวเองเป็นบอส ชอบมาสายตื่นสาย เล่นแข็ง จำบทไม่ค่อยได้ครับ (หัวเราะ)
ในส่วนของผู้กำกับ พี่อรุณ เป็นอย่างไรบ้าง
- ก่อนหน้านี้ผมเคยบอกพี่อรุณว่า ผมเล่นคอนเสิร์ตแทบทุกวัน นอนน้อย อย่าให้ผมเล่นบทที่ต้องใช้เวลาแต่งตัวเยอะนะ พอมาในเรื่องนี้ เสื้อผ้าใส่ไม่กี่นาทีก็เสร็จครับ แต่ทรงผมเนี่ยนานหลายชั่วโมง เพราะในเรื่องผมต้องเล่นเป็นคนหัวล้าน แล้วก็แสบหัวด้วย แต่ก็ทนได้ครับ สนุกตรงที่ได้เปลี่ยนรูปลักษณ์ภายนอก คาแร็คเตอร์ตัวเองไปเลยครับ
ฝากภาพยนตร์ “ปะฉะดะ” ด้วยครับ
- เรื่องนี้ได้เล่นกับน้องนุ๊ก, น้องเบิ้ล และได้มีโอกาสร่วมงานกับพี่เต๋า-สมชาย เป็นอะไรที่สนุกมาก เจอกันที่โรงภาพยนตร์ 25 เมษายนนี้ครับ
แบม – ปณิชดา คงสวรรยา
รับบทเป็น ลินดา
คาแร็คเตอร์ของลินดาเป็นอย่างไร
- เป็นคนที่มีความเก็บกดลึก ๆ และมีความพยายามมาก ๆ ในชีวิต และคาดเดาความคิดได้ยากว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ เป็นคนมีจุดมุ่งหมายในชีวิตว่าเขาต้องการทำอะไร และมุ่งมั่นที่จะทำให้สำเร็จให้ได้ค่ะ
เป็นภาพยนตร์เรื่องแรก ก็มารับบทค่อนข้างแรง เป็นโสเภณี ใช้เวลาในการตัดสินใจมาเล่นบทนี้นานไหม
- ความจริงแบมมองว่าบทนี้ท้าทายดีเหมือนกัน เรารู้ว่าทำไมเราถึงมาเป็นโสเภณี ตัวละครมีแบ็คกราวนด์ เขาเจออะไรมาทำให้เขามาถึงจุดนี้ แบมเลยตัดสินใจไม่นาน เลยอยากจะลองเล่นดู ถึงบทจะดูแรง แต่เรามองว่า เป็นการแสดง เป็นศิลปะอย่างหนึ่ง ถามว่ากลัวเรื่องคนจะติดภาพลักษณ์แบบนี้ไหม แบมมองว่า ถ้าเราได้บทนี้ และเราสามารถแสดงได้ เป็นอะไรที่ท้าทายเรามากค่ะ เราอยากทำงานทุกอย่างให้เต็มที่ และเล่นบทได้หลากหลาย ถึงจะน่ากลัวหรือแรง เราก็มองว่าเป็นศิลปะการแสดงอย่างหนึ่ง ตอนที่คุยเรื่องบท กับผู้กำกับ เราเห็นภาพแล้วว่า ภาพที่ออกมาน่าจะโอเคในจุดที่แบมสามารถทำได้ค่ะ
มีการเตรียมตัวในการเล่นเป็นลินดาอย่างไร
- เราไปเป็นลินดาเลย มองภาพว่าเราโดนอะไรมาบ้าง สร้างแบ็คกราวนด์ตัวละคร ด้วยอาชีพที่เขาต้องทำ หัวใจเขาเลยเย็นชา แต่จริง ๆ เขาเป็นผู้หญิงอ่อนแอคนหนึ่ง พอเขาไปเจอห้าว เขารู้สึกว่าทำไมผู้ชายคนนี้ เข้ามาทำให้หัวใจฉันอบอุ่นได้ ถามว่ายากไหม แบมว่าบทนี้ท้าทายมากกว่า มีหลายความรู้สึกให้เล่น ไม่ได้มีแค่ ความเก็บกด หรือโกรธเคือง แต่มีเรื่องความรักเข้ามาทำให้ใจของเขาสับสน เป้าหมายที่วางไว้ไขว้เขวค่ะ
ฉากเลิฟซีนกับพี่เบิ้ล
- แบมตื่นเต้น กลัวจะขำ เพราะแบมกับพี่เบิ้ลเป็นพี่น้องกัน พอต้องมามองหน้าแล้วมาสวีทกัน แบมก็พยายาม ทำการบ้านว่าจะทำยังไงให้เราเกิดความรู้สึกโรแมนติก ไม่ให้หลุดขำ เป็นอีกซีนที่เครียดค่ะ ตอนถ่ายคัทแรก ก็ขำกันเลย ต้องสะกดอารมณ์มาก แบมพยายามลบภาพความเป็นพี่เบิ้ลไปเลย พยายามมองว่าเขาเป็นคนที่เรารักนะ
ซีนที่ยากที่สุด
- ซีนที่เข้ากับพี่เต๋า สมชาย วันนั้นเวลาในการทำงานค่อนข้างน้อย แล้วเราต้องร้องไห้หนักมาก คัทแรกอารมณ์แบมได้ แต่กล้องไม่ได้จับสีหน้าแบม ก็ต้องถ่ายเพิ่ม พอถ่ายใหม่เหมือนอารมณ์แบมไม่ continue แล้วเราก็กดดันนิดนึง พี่เต๋าก็พยายามสอนและบิลด์อารมณ์เรา น้ำตาคลอ แต่ไม่ไหลสักที เป็นอะไรที่ยากสำหรับแบมพอสมควร เพราะเป็นเรื่องแรกที่ใช้ความดราม่าทางการแสดงเยอะ
ชอบซีนไหนมากที่สุด
- ซีนแรกที่ถ่ายเลยค่ะ ซีนที่แบมเป็นโสเภณี ต้องรับลูกค้า ซึ่งพี่ที่แสดงเป็นลูกค้าตัวใหญ่มาก เราต้องสู้แรงเขาให้ได้ แบมก็ใส่เต็มที่ ตอนที่ล้มก็ล้มจริง ๆ เขาเขียวช้ำใหญ่เป็นเดือนเลยค่ะ
ในเรื่องเจอซุปตาร์ลุกทุ่ง 3 คน
- เหมือนไปดูคาเฟ่ตลก พี่เบิ้ลเล่นมุกตลอดเวลา พี่นุ๊กเป็นเหมือนน้องใหม่ที่กำลังเรียนรู้มุกจากพวกพี่ ๆ อยู่ พี่ก้องตัวจริงสุขุมมาก เขาเป็นผู้ใหญ่ แต่พอเวลาเล่นกับเพื่อนก็สนุกเฮฮาค่ะ ทำงานกับแก๊งนี้ไม่มีความกดดันเลยค่ะ
ถ้าอยากจะเม้าท์ใครสักคนในกอง คน ๆ นั้นเป็นใคร
- พี่เบิ้ล ปทุมราช ค่ะ เป็นตัวโจ๊ก เขาสามารถทำให้เราตื่นได้ตลอดเวลา มากองนี้แบมไม่ง่วงเลยค่ะ
คิดว่ามีเสน่ห์ตรงไหน
- เรื่องราวมีเส้นเรื่อง เป็นภาพยนตร์ที่ครบรส มีแอ็คชั่น, ดราม่า และ ตลก คนดูจะสนุก บรรยากาศการทำงานอบอุ่น ฝากภาพยนตร์ “ปะฉะดะ” ด้วยนะคะ พวกเราทำงานกันเต็มที่มาก เป็นกำลังใจให้พวกเราด้วยนะคะ
วาว – พราวภิชณ์ษา สุนทรารักษ์
รับบทเป็น เทียนหอม
คาแร็คเตอร์ของเทียนหอม
- ง่ายมาก ในเรื่องแทบไม่ได้พูดอะไรเลย แต่ยากตรงที่ต้องแสดงอากัปกิริยาและสายตา เรารู้จัก “มาด” แสดงโดย นุ๊ก-ธนดล มาตั้งแต่เด็ก แต่มาดจำเทียนหอมไม่ได้ เราจะทักเขาดีไหม เพราะตอนที่เจอมาด เขาเหมือนเป็นนักเลง แต่ลึก ๆ แล้วเราเชื่อว่าเขาเป็นคนดี มันมีความรู้สึกสับสนอยู่ข้างใน
ต้องเล่นยังไงให้รู้สึกผูกพันกับมาด
- นึกตามอารมณ์ตัวละคร เราเชื่อว่าจริง ๆ แล้วเขาเป็นคนที่ดี แต่วันนี้ชีวิตเขาคงผ่านอะไรมาเยอะ เลยทำให้เขา กลายเป็นคนแบบนี้ วาวเรียนจิตวิทยามาด้วย ก็เอาความรู้ที่เรียนมาใช้ในการแสดงด้วย แล้วพอเรารู้จักกับนุ๊ก เขาเป็นคนตลก และน่ารัก มันช่วยให้ตอนที่เราแสดงกับเขา ก็รู้สึกว่าจริง ๆ แล้วเธอไม่ได้เป็นคนแบบนี้ เธอเป็นคนน่ารักนะ ก็ช่วยให้เราเชื่อได้เยอะว่าจริง ๆ แล้วมาดเป็นคนดี เราสร้างภูมิหลังความรู้สึกกับเขาได้ไม่ยากค่ะ
เทียนหอมมีแต่ฉากดราม่า
- เวลาอยู่นอกเซ็ทไม่เครียด คุยกันปกติ แต่พอจะเริ่มถ่ายทำ ในหน้าเซ็ทจะมีความคุกรุ่น แต่พอเราทำการบ้านมา เราก็รู้อยู่แล้วว่าต้องเจอสถานการณ์อย่างไร เราจะต้องบิลด์อารมณ์ แล้วพี่อรุณบรีฟดีมาก เหมือนเขาจะร้องไห้ ไปกับวาว ทำให้เราเข้าใจอารมณ์ตัวละคร คนที่เข้าฉากกับเรา เขาส่งอารมณ์ให้เราได้อย่างดี ทุกคนรับผิดชอบ หน้าที่ตัวเองดี เราเลยอินกับหน้างานได้เยอะเลยค่ะ
ร่วมงานกับนุ๊กเป็นอย่างไรบ้าง
- นุ๊กเคยบอกว่าเขาไม่เคยแสดงอะไรมาเยอะ แต่เขาอยากเป็นนักแสดง ซึ่งเรารู้ว่าเขามี Mindset ที่ดี แต่เราไม่รู้ว่าเขาแสดงได้มากน้อยแค่ไหน แต่พอถึงซีนที่หนักมาก ๆ ใช้เทคนิคและอารมณ์เยอะมาก เขาทำได้ดีมาก ๆ จนมัน Impact มาถึงเรา ก็ต้องขอบคุณนุ๊กที่ส่งอารมณ์มาถึงเราได้ แล้วพอสั่งคัท เขาก็เป็นคนน่ารัก ตลก มีความรับผิดชอบ รักการเอ็นเตอร์เทนคนรอบข้างเสมอ วาวว่าเขามีพรสวรรค์ในการจัดการร่างกายตอนที่เล่นคิวบู๊ เหมือนเขาเคยเรียนมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นการวิ่ง การเดิน การต่อสู้ เขาทำออกมาได้ดูดี คล่องแคล่วมากค่ะ
คิดว่าความสนุกของ ปะฉะดะ อยู่ตรงไหน
- ต้องยกเครดิตให้นักแสดงนำ 3 คน ได้แก่ เบิ้ล ปทุมราช, ก้อง ห้วยไร่ และ นุ๊ก-ธนดล ถ้าให้มองแบบคนทั่วไป ก็อาจมองว่าเอาคนที่เป็นกระแสมานักแสดง เพราะหวังให้แฟนคลับมาดู ซึ่งจริง ๆ วาวมองว่าคนเหล่านี้ เขาเป็นคนมีของ ไม่งั้นเขาคงไม่มาถึงจุดนี้ มีคนมาชอบเขาขนาดนี้ แล้วพอได้ทำงานกัน ทุกคนทำเต็มที่ ไม่ได้มาเล่น ๆ ถึงเขาจะเป็นนักร้อง แต่ก็ถือว่าเป็นนักแสดงที่มีคุณภาพได้เลย โดยฉพาะนุ๊ก ก็สมแล้วที่เขาบอกว่า เขาอยากเป็นนักแสดง เพราะเขาทำได้และทำถึง หนังไทยจะมีเซฟโซนของเรา เราก็อยู่ในเซฟโซนนั้น แต่ก็อยากให้ คนไทยเปิดใจดูเรื่องนี้ หนังที่เป็นสไตล์ยุคอันธพาลครองเมืองไม่ได้มีมานานแล้ว น่าจะเป็นอีกรสชาติหนึ่ง ของหนังไทยในยุคนี้ที่น่าสนใจพอสมควร ดราม่าเยอะ แต่ก็มีมุกตลกด้วยสไตล์ของนักแสดง น่าจะครบรสพอสมควรค่ะ สำหรับแฟน ๆ ของนักแสดงนำทุกคน บอกได้เลยว่าฟินแน่นอน ไม่ได้มีแค่นักแสดงนำเท่านี้ ยังมีตัวพ่อตัวแม่ แสดงในเรื่องนี้ พี่อรุณเป็นผู้กำกับคิวบู๊ที่เก่งที่สุดที่เคยร่วมงานมา ทุกครั้งที่เขาบรีฟมุมกล้อง เขามีภาพในหัวที่ชัด และทำงานเป๊ะมาก คิดว่าเป็นแอ็คชั่นคอมเมดี้อีกเรื่องที่ทำออกมาได้ดีค่ะ คิดว่าทุกคนน่าจะสนุกไปกับหนังเรื่องนี้ค่ะ