ข้อมูลงานสร้าง

การ์ฟิลด์ (พากย์เสียงโดยคริส แพรทท์) แมวเซเล็บผู้เกลียดชังวันจันทร์ แต่โปรดปรานลาซานญ่าและการหมกตัวอยู่ในบ้าน กำลังจะต้องออกไปผจญภัยสุดป่วนนอกบ้านแล้ว! หลังจากการกลับมาพบกันอย่างคาดไม่ถึงกับพ่อผู้หายตัวไปนานของเขา แมวข้างถนนตัวมอซอ วิค (พากย์เสียงโดยซามวล แอล. แจ็คสัน) การ์ฟิลด์และโอดี้ เพื่อนสุนัขของเขา ก็ถูกบีบให้ต้องโบกมือลาชีวิตแสนสบายของพวกเขาเพื่อร่วมอุ้งเท้ากับวิคในการปล้นสุดฮาที่เสี่ยงอันตราย

โคลัมเบีย พิคเจอร์ส ภูมิใจเสนอ ภาพยนตร์ที่นำเสนอโดยอัลคอน เอนเตอร์เทนเมนต์ ร่วมกับดีเอ็นอีจี อนิเมชัน, วัน คูล กรุ๊ปและเวย์แฟร์เรอร์ สตูดิโอส์ ร่วมกับสเตจ 6 ฟิล์มส์ ผลงานสร้างโดยจอห์น โคเฮนและแอนดรูว์ส แม็คมีล เอนเตอร์เทนเมนต์ The Garfield Movie ภาพยนตร์เรื่องนี้พากย์เสียงโดยคริส แพรทท์, ซามวล แอล. แจ็คสัน, ฮันนาห์ แว็ดดิงแฮม, วิง รามส์, นิโคลัส โฮลท์, เซซิลี สตรอง, ฮาร์วีย์ กิลเลน, เบรทท์ โกลด์สไตน์, โบเวน หยาง, จาแนลล์ เจมส์และสนูป ด็อกก์ กำกับโดยมาร์ค ดินดัล บทภาพยนตร์โดยพอล เอ. แค็ปแลน & มาร์ค โทร์โกฟและเดวิด เรย์โนลด์ส สร้างจากตัวละครการ์ฟิลด์โดยจิม เดวิส ผู้อำนวยการสร้างได้แก่จอห์น โคเฮน, โบรเดอริค จอห์นสัน, แอนดรูว์ เอ. โคโซฟ, สตีเวน พี. เว็กเนอร์, เคร็ก ซอสต์และนามิต มัลโฮทรา

วันจันทร์ ที่ห่วยแตก ที่สุด

“คุณก็รู้ว่าการ์ฟิลด์รักลาซานญ่าและเกลียดวันจันทร์ แต่เขาไม่เคยเจอกับการผจญภัยแบบนี้มาก่อนจนกระทั่งตอนนี้ครับ” คริส แพรทท์ ผู้พากย์เสียงแมวประจำบ้านตัวอ้วนกลมขวัญใจทุกคน ผู้กำลังจะออกผจญภัยครั้งใหญ่สุดฮาในแบบแมวพ้นน้ำใน The Garfield Movie ภาพยนตร์อนิเมชันใหม่แกะกล่อง กล่าว

“นี่เป็นการ์ฟิลด์ฉบับปี 2024 เมื่อโลกพัฒนาไป การ์ฟิลด์ก็เหมือนกันครับ และชีวิตที่แสนสบายของเขาก็ง่ายดายยิ่งกว่าเดิมอีก” แพรทท์กล่าวต่อ “เขายิ่งขี้เกียจมากขึ้นเพราะเขาสามารถสั่งลาซานญ่าของเขาได้เพียงแค่การคลิกครั้งเดียว ไม่มีอะไรที่ย่ำแย่เกี่ยวกับชีวิตเขาเลยยกเว้นวันจันทร์ แต่ในหนังเรื่องนี้ เขาจำเป็นต้องออกจากบ้านและร่วมการผจญภัยที่เขาไม่ได้พร้อมเลยซักนิด แต่เขาก็จะต้องทำให้ดี…ระหว่างนั้น เราจะได้เห็นว่าเขามาเป็นแมวแบบนี้ได้ยังไงและทำไม นี่คือสิ่งที่ทำให้การ์ฟิลด์เป็นการ์ฟิลด์ครับ”

หลังจากเกือบ 50 ปีของความโด่งดังทางการ์ตูนช่องและตอนพิเศษทางโทรทัศน์ฮากระจาย ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รวมทุกอย่างที่ผู้ชมรักเกี่ยวกับการ์ฟิลด์มาไว้ในเรื่องเดียว บวกกับอีกหลายๆ สิ่งที่พวกเขาไม่เคยรู้

จิม เดวิส ผู้สร้างการ์ฟิลด์ กล่าวว่าเขาได้สร้างตัวละครตัวนี้ขึ้นมาให้แตกต่างจากสุนัขหลายๆ ตัวที่ครองหน้าการ์ตูนอยู่ในขณะนั้น “ผมได้เห็นหมาหลายตัวไปได้สวย ทั้งสนูปปี้, มาร์มาดุ๊ค, เฟร็ด บาสเซ็ท เยอะแยะไปหมด” เขากล่าว “แต่ตอนนั้นไม่มีแมวเลย และผมก็โตมากับฟาร์มที่เลี้ยงแมวครั้งหนึ่งประมาณ 25 ตัว ผมก็เลยรู้จักและรักแมวครับ ผมคิดว่า ‘ถ้าหมาทำได้ดีขนาดนั้น บางที ฉันอาจจะใช้แมวได้’ แมวเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างจะหยิ่งยะโส คุณก็รู้ว่าหมาเป็นยังไง แต่แมวจะไม่แยแสใครทั้งนั้นครับ”

ด้วยเหตุนั้น เขากล่าวว่า “ก็เลยเป็นเรื่องธรรมดาที่เราจะใส่เอาความนึกคิดและความรู้สึกแบบมนุษย์ให้กับแมว การ์ฟิลด์เป็นมนุษย์ในชุดแมวครับ” ในความเป็นจริงแล้ว เดวิสกล่าวว่า ความเป็นอมตะของการ์ฟิลด์เกิดจากการที่ทาสนับล้านๆ คนของเขาตระหนักถึงตัวเองในข้อเสียของเขา แมว พวกเขาก็เหมือนพวกเราน่ะแหละ! “ผมถือกระจกให้ผู้อ่านส่องและฉายภาพพวกเขากลับไปด้วยการใส่มุขขำขันเข้าไป” เดวิสกล่าว “เราถูกทำให้รู้สึกผิดจากการกินแบบไม่บันยะบันยัง ไม่ออกกำลังกายและนอนเกินเวลา แต่การ์ฟิลด์ทำให้เรารู้สึกผิดน้อยลงด้วยการดื่มด่ำกับสิ่งต่างๆ เหล่านั้น” และเดวิสก็กล่าวว่าทุกแง่มุมของการ์ตูนเรื่องนี้มีศูนย์กลางอยู่ที่เรื่องนั้น รวมถึงการออกแบบตัวละครด้วย “ผมอยากจะสร้างแมวที่ดูภายนอกแล้วเหมือนกับนิสัยของเขา นั่นคือเกียจคร้าน หลงตัวเองและตะกละครับ” เขากล่าว

ภาพยนตร์เรื่องนี้อำนวยการสร้างโดยจอห์น โคเฮน ผู้ก่อนหน้านี้เป็นผู้นำ Despicable Me และ Angry Birds สู่จอเงิน และโดยแอนดรูว์ โคโซฟและโบรเดอริค จอห์นสันจากอัลคอน เอนเตอร์เทนเมนต์ ผู้ซึ่งความสำเร็จของภาพยนตร์ที่สร้างความเพลิดเพลินให้กับคนทั้งครอบครัวรวมถึง The Blind Side และ Dolphin Tale

สำหรับโคเฮน โอกาสในการได้ร่วมงานกับตัวละครขวัญใจเป็นเหมือนการทำให้ฝันในวัยเด็กของเขาเป็นจริง “ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผมโชคดีพอที่จะได้สร้างหนังการ์ฟิลด์น่ะครับ” โคเฮนกล่าว “ตลอดหลายปีนี้ ผมหยิกตัวเองทุกวันเลย ผมเป็นเด็กที่มีตุ๊กตาการ์ฟิลด์และปุ๊กกี้ โทรศัพท์การ์ฟิลด์ ถ้วยคลาสสิกของแม็คโดนัลด์ ผมเคยวาดการ์ตูนการ์ฟิลด์ของตัวเองที่มีโอดี้ จอนและตัวละครสุดวิเศษอื่นๆ ด้วยซ้ำไป ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่จิม เดวิสได้ไว้วางใจให้เราเป็นผู้พิทักษ์ผลงานของเขา ไม่มีอะไรที่ทำให้ผมดีใจได้มากไปกว่าการได้ยินเสียงแห่งความสุขของเขาและปฏิกิริยาตอบรับอย่างตื่นเต้นที่เขามีต่อหนังเรื่องนี้ระหว่างงานสร้างครับ”

ในส่วนตัวเขาเองนั้น เดวิสกล่าวว่าเขาตื่นเต้นที่ได้เห็นภาพยนตร์อนิเมชันนำการ์ฟิลด์ให้หลุดออกจากกรอบช่องการ์ตูนสามช่องของเขา “ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าการ์ฟิลด์ได้ออกไปนอกบ้านมากขึ้นในอนิเมชัน ไม่อย่างนั้น เราจะสร้างเขาในรูปแบบอนิเมชันทำไมล่ะครับ” ผู้สร้างตัวละครตัวนี้กล่าว “การ์ฟิลด์มีนิสัยแบบเดียวกันในสื่อทั้งสองประเภท อย่างไรก็ดี ด้วยความที่อนิเมชันมีมากกว่าสามเฟรม การ์ฟิล์มก็เลยต้องเกี่ยวข้องกับพล็อตที่ทำให้เขาต้องก้าวออกจากเตียง ในหลายๆ แง่มุม การทำงานกับอนิเมชันง่ายกว่าการ์ตูนช่องเพราะในการ์ตูนช่อง คุณต้องปูพื้นเรื่อง ใส่จุดหักมุม แล้วก็คลายปมมันภายในเพียงแค่สามหรือสี่ช่อง และภายใน 25 คำหรือน้อยกว่านั้น ในอนิเมชัน คุณมีเวลาเหลือเฟือที่จะเล่าเรื่องราว แถมคุณยังได้ใช้ดนตรี ซาวน์เอฟเฟ็กต์และไดอะล็อคมีเสียง ในการปล่อยมุขและขับเคลื่อนเรื่องราวด้วยครับ”

สำหรับดินดัลและทีมงาน กระบวนการนี้เริ่มต้นด้วยการค้นคว้าสิ่งที่ทำให้การ์ฟิลด์เป็นการ์ฟิลด์ และการหาสถานที่ที่ตัวละครจะสามารถเติบโตและเปลี่ยนแปลงได้ แต่ด้วยการ์ตูนช่องการ์ฟิลด์นับพันๆ ตอนที่สร้างความเพลิดเพลินให้กับคนนับล้านๆ มาหลายสิบปีแล้ว งานนี้อาจจะดูน่าหนักใจ แต่โชคดี การย้อนกลับไปหาการ์ตูนการ์ฟิลด์ที่คลาสสิกเหล่านั้นเป็นเรื่องที่ง่ายดายกว่าเดิม “ตอนที่เราเริ่มต้นสร้างหนังเรื่องนี้ เราได้เข้าถึงฐานข้อมูลที่เก็บรวบรวมการ์ตูนช่องทุกตอนเอาไว้” เขาเล่า “คุณสามารถใส่คีย์เวิร์ดอย่าง ‘การ์ฟิลด์กินลาซานญ่า’ หรือ ‘การ์ฟิลด์กอดโอดี้’ แล้วมันก็จะดึงเอาการ์ตูนที่วิเศษสุดพวกนี้ที่เราสามารถใช้อ้างอิงได้ขึ้นมา นั่นเป็นแหล่งข้อมูลขนาดมหึมาสำหรับเรา ในการตามหาไอเดียที่จะเชื่อมโยงกับการ์ตูนช่องที่แฟนๆ จะเข้าถึงได้ นอกจากนี้ มันยังมีการจัดระเบียบอย่างดี และการมีข้อมูลอ้างอิงแบบนั้นก็ทำให้กระบวนการพัฒนารวดเร็วขึ้นด้วยครับ”

“หนังเรื่องนี้เป็นเรื่องของแมวประจำบ้าน แมวประจำบ้านที่หลงตัวเอง รักความสบายและเกียจคร้าน ผู้ถูกบีบให้ต้องก้าวพ้นจากขอบเขตความสะดวกสบายของตัวเองและเข้าสู่การผจญภัยในโลกภายนอก” โคเฮนกล่าว  “เขาไม่พร้อมสำหรับการเอาตัวรอดโดยปราศจากความสะดวกสบายของการสั่งอาหารได้ตามใจชอบ เก้าอี้เลซีบอย ผ้าห่มและรีโมทคอนโทรลได้ มีโอกาสมากมายสำหรับเรื่องตลกขบขันในสถานการณ์ปลาพ้นน้ำแบบนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้วยตัวละครจอมหยิ่งที่ยึดติดกับแนวทางของตัวเองและคิดว่าเขารู้ดีกว่าใครๆ เราสนุกสุดๆ กับการจินตนาการความเป็นไปได้ไม่รู้จบสำหรับแมวที่ขี้เกียจที่สุดในโลก ที่เป็นหัวใจของหนังโจรกรรมเรื่องนี้น่ะครับ”

 

เกี่ยวกับตัวละคร

การ์ฟิลด์

พากย์เสียงโดยคริส แพรทท์

การ์ฟิลด์เป็นแมว…แมวตัวใหญ่จอมขี้เกียจ…แมวตลกไหวพริบดีเยี่ยม…แมวผู้รักลาซานญ่ายิ่งชีพและไม่เคยออกกำลังกายเลย แมวที่รักการกินเป็นชีวิตจิตใจ ดังนั้น อย่าไปตัดสินเขาถ้าเขาไม่ได้เป็นไปตามมาตรฐานที่สูงลิบลิ่วแบบมนุษย์อย่างคุณ การ์ฟิลด์เป็นตัวแทนขนฟูของความปรารถนาของมนุษย์ที่ไม่อยากจะทำอะไรเลย…ตลอดทั้งวัน…เหมือนอย่างที่พวกเราทุกคนอยากจะทำ การ์ฟิลด์ ไอคอนของการไม่ทำอะไรเลย เกลียดวันจันทร์และการทำงาน อาหารเป็นภาษารักของเขา และเขาก็พูดภาษานี้ได้อย่างคล่องแคล่ว แถมด้วยสำเนียงต่างๆ อีกมากมายด้วย เขาเกลียดแมงมุมและรักกาแฟ แตกต่างจากความเชื่อของสาธารณชน การ์ฟิลด์ออกกำลังกายบ่อยนะ การออกกำลังกายที่เขาชื่นชอบคือการเดินจากตู้เย็นไปที่โซฟา การกลิ้งตัวบนเตียง การยกส้อมและการเคี้ยวอาหาร เขาใช้ชีวิตที่แสนสุขสบายของเขากับจอน เจ้าของเขาและโอดี้ หมาฝึกงานค่าตัวฟรี

คริส แพรทท์เป็นตัวเลือกแรกของทีมผู้สร้างและพวกเขาถึงกับทดสอบไอเดียนี้ด้วยการสร้างภาพอนิเมชันของการ์ฟิลด์คู่ไปกับคลิปเสียงของแพรทท์ที่พูดในรายการทอล์คโชว์ด้วยซ้ำไป “เขากำลังพูดเกี่ยวกับความรักในอาหาร ผมจำไม่ได้หรอกนะว่ามันเป็นลาซานญ่ารึเปล่า” ดินดัลกล่าว “เรานำไดอะล็อคท่อนนั้นมา ใส่อนิเมชันเล็กๆ เข้าไป และมันก็ให้ความรู้สึกเหมือนว่ามันถ่ายทอดความเป็นการ์ฟิลด์ออกมาได้เลยครับ”

“ผมคิดว่าคริสถ่ายทอดความขี้เกียจและความขี้แซะลงไปในเสียงตามธรรมชาติของเขาน่ะครับ” เขากล่าวติดตลก

และตัวจิม เดวิสเองก็ทึ่งกับตัวนักพากย์คนนี้ด้วย “คริสมีทัศนคติที่ยอดเยี่ยมในเสียงของเขาและจังหวะที่เหลือเชื่อครับ” เดวิสกล่าว “ผมให้คะแนนความตลกเขาสิบคะแนนเต็มเลย และสิ่งหนึ่งที่เขาทำคือการใส่ความแสบซ่าส์และความเก๋าเข้าไปในตัวละครตัวนี้ เขาเข้าใจตัวละครตัวนี้อย่างถ่องแท้และถ่ายทอดความเป็นเขาออกมาได้เป๊ะๆ การได้ฟังเสียงของเขาเป็นเรื่องเยี่ยมครับ คุณสามารถนั่งฟังแล้วบอกได้ทันทีว่า ‘ใช่เลย นั่นล่ะการ์ฟิลด์’ น่ะครับ”

“ผมจำได้ว่าสมัยเด็ก ผมเคยอ่านการ์ตูนเรื่องการ์ฟิลด์ครับ” แพรทท์กล่าว “เวลาหนังสือพิมพ์มา ผมก็จะดึงส่วนหนังออกมาเพื่อดูว่ามีหนังเรื่องไหนจะเข้าโรงบ้าง แล้วผมก็จะหยิบส่วนการ์ตูนมาดู ซึ่งมันเป็นเรื่องการ์ฟิลด์เสมอครับ”

 

จอน อาร์บัคเคิล

พากย์เสียงโดยนิโคลัส โฮลท์

ชีวิตของจอนเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นในตอนที่แมวส้มสุดคิ้วท์ได้มารบกวนมื้ออาหารค่ำที่แสนเปล่าเปลี่ยวเดียวดายของเขาในร้านมัมมา ลีโอนีส์ในค่ำคืนฝนตกที่มืดมิด จอนหลงเสน่ห์แมวตัวนี้ ที่ดูเหมือนจะมีพรสวรรค์พิเศษในการกินอาหารอิตาเลียนในทันที จอนรับการ์ฟิลด์มาเลี้ยงด้วยความยินดีและย้ายไปอยู่บ้านสองเตียง/สองอ่างอาบน้ำในย่านชานเมือง…หรืออาจเป็นการ์ฟิลด์ที่รับเลี้ยงจอน และช่วยเขาจากชีวิตที่เหงาหงอยก็ได้ เขามีอาชีพเป็นนักเขียนการ์ตูนและทำงานที่บ้าน บ่อยครั้ง เขาจะผล็อยหลับไปบนโต๊ะเขียนงานของเขา ตามความคิดของจอน เขา, การ์ฟิลด์และโอดี้รวมกันเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ

หรือบางที เราอาจมองมันได้อีกแบบหนึ่ง…

จอนเคยเป็นนักเขียนการ์ตูนที่แสนโดดเดี่ยว ที่นั่งทำงานหลังขดหลังแข็งที่โต๊ะทำงาน แต่คืนหนึ่ง ระหว่างที่เขานั่งอยู่ที่โต๊ะสำหรับหนึ่งคนที่ร้านอาหารอิตาเลียนร้านโปรดของเขา เขาก็ถูกแมวสีส้มตัวน้อยที่มีความอยากอาหารใหญ่โตรับเลี้ยง การ์ฟิลด์ ผู้ยินยอมให้มนุษย์พาเขากลับบ้าน ได้ทำให้ชีวิตของจอนสว่างไสวขึ้นมาด้วยการยอมให้ทาสแมวคนนี้ดูแลเขา เสิร์ฟลาซานญ่าให้เขา ทำให้ตัวเขาอบอุ่นและแห้งสนิท…และถึงขนาดนำโอดี้มาเป็นทาสรับใช้เคียงข้างบัลลังก์ของเขาด้วยซ้ำไป คุณจะพูดอะไรเกี่ยวกับการ์ฟิลด์ก็ได้ แต่ภายใต้ความเป็นผู้นำของเขา เขาก็สร้างบ้านและครอบครัวที่สมบูรณ์แบบให้กับชายผู้ต้องการมัน

ดินดัลกล่าวว่า ไม่ว่าเรื่องไหนจะเป็นเรื่องจริง เชื่อไหมล่ะว่า “การ์ฟิลด์มีแง่มุมที่อ่อนไหว มันถูกบอกเป็นนัยๆ เอาไว้ในการ์ตูนทุกตอน และบางครั้ง ก็เป็นมากกว่าแค่ความนัยด้วยซ้ำไป…เขาอาจจะกอดโอดี้ในช่องที่สองก่อนที่จะผลักเขาไปห่างๆ ในช่องที่สาม ‘โอเค พอแล้ว’ แต่ชัดเจนว่าเขารักจอนและโอดี้ครับ”

ในตอนที่การ์ฟิลด์และโอดี้ถูกลักพาแมวและหมาไป การหายตัวไปของพวกเขาก็ทำให้ จอน เจ้าของของพวกเขา หัวหมุนด้วยความพยายามที่จะนำตัวพวกเขากลับคืนมา “ชีวิตของจอนเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นในตอนที่เจ้าเหมียวส้มแสนน่ารักเข้ามาในชีวิตและ ‘รับเลี้ยงเขา’ อย่างที่การ์ฟิลด์ชอบพูดน่ะครับ” โคเฮนกล่าว “ในฐานะพ่อผู้เลี้ยงการ์ฟิลด์มา ความสัมพันธ์ระหว่างจอนและเขาก็มีคุณสมบัติในแบบพ่อ/สัตว์เลี้ยงที่แสนคลาสสิก แต่มันก้าวไปไกลเกินกว่าความสัมพันธ์ระหว่างแมวและเจ้าของตามปกติ เพราะการ์ฟิลด์มักจะมองตัวเองว่าเป็นเจ้านายครับ”

และใน The Garfield Movie ผู้ชมจะได้เห็นเป็นครั้งแรกว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับจอนและโอดี้เริ่มต้นอย่างไร ในตอนที่จอนได้ช่วยเหลือ (และให้อาหาร และให้อาหาร และให้อาหาร) เบบี้การ์ฟิลด์ผู้น่ารัก “ชัดเจนว่าจอนช่วยการ์ฟิลด์เอาไว้ เขาเป็นแมวจรจัดและจอนก็ช่วยชีวิตเขาไว้” โคโซฟกล่าว “แต่การ์ฟิลด์ก็ช่วยจอนเอาไว้ด้วยเช่นกัน จริงๆ แล้ว จอนเป็นคนขี้เหงาที่ได้เพื่อนมาในตอนที่เขาต้องการ แล้วเขาก็ได้เพื่อนเพิ่มเป็นสองในตอนที่เขาได้โอดี้มา แล้วจู่ๆ คนๆ นี้ที่อยู่ตามลำพังก็มีครอบครัวแล้ว”

จอนพากย์เสียงโดยนิโคลัส โฮลท์ โคโซฟกล่าวว่า “นิโคลัส โฮลท์ ผู้พากย์เสียงจอน เป็นคนที่มีพรสวรรค์อย่างเหลือเชื่อ จอนเป็นทาสที่น่ารัก ผู้อยากทำทุกอย่างเพื่อการ์ฟิลด์และโอดี้ที่เขารัก การแสดงของโฮลท์ทั้งตลกและน่าเห็นอกเห็นใจครับ”

โอดี้

ให้เสียงเห่าโดยฮาร์วีย์ กิลเลน

โอดี้เป็นสุนัขที่รักอิสระ น่ารักและซื่อสัตย์ เขารักทุกคนโดยเฉพาะการ์ฟิลด์ เพื่อนผู้แสนเกียจคร้านของเขา เขาเป็นเพื่อนผู้ภักดี ผู้เต็มใจทำทุกอย่างเพื่อการ์ฟิลด์เว้นแต่ปล่อยให้เขาล้ม โอดี้เป็นสุนัขที่มองการณ์ไกลและช่างคิด เขามักจะพบความน่าขันหรือความไร้สาระในทุกสถานการณ์ โอดี้เป็นตัวถ่วงดุลทางอารมณ์ สิ่งยึดเหนี่ยวและศูนย์กลางทางอารมณ์ของการ์ฟิลด์ โอดี้ ผู้มักถูกมองข้ามแต่ไม่เคยถูกมองต่ำ เป็นกาวใจที่ยึดเหนี่ยวครอบครัวนี้ไว้ด้วยกัน และด้วยความที่การ์ฟิลด์ไม่ได้พร้อมเลยซักนิดสำหรับการผจญภัยนอกบ้านของเขา ต้องขอบคุณที่เขามีโอดี้มาจัดการเรื่องทั้งหมดให้!

“ผมคิดว่าทัศนคติที่การ์ฟิลด์มีต่อโอดี้สามารถสรุปได้ดีที่สุดเป็นประโยคหนึ่งที่เขาพูดในหนังเรื่องนี้ครับ” จอห์นสันกล่าว “การ์ฟิลด์โกรธที่โอดี้มัดเขาไว้ และเขาก็พูดอย่างเหนื่อยใจว่า ‘ทั้งๆ ที่ฉันปล่อยให้นายทำเพื่อฉัน!’ นั่นคือความสัมพันธ์ของพวกเขาครับ โอดี้รักการ์ฟิลด์และการ์ฟิลด์ก็คิดว่าเขาทำดีกับโอดี้ในการปล่อยให้เขาทำแบบนั้นครับ”

 

เบบี้การ์ฟิลด์

การ์ฟิลด์อยากจะให้คุณเชื่อว่า ตอนเป็นแมวเด็ก เขาเป็นแมวที่เจ้าเล่ห์ น่ากอดฟัดและน่ารักที่สุดในย่านนี้ และเขาก็พูดถูก! แมวเจ๋งๆ ทุกตัวบนท้องถนนรู้เรื่องราวของแมวจิ๋วตัวนี้ ผู้ถูกทิ้งไว้ในลังไม้นอกร้านอาหารอิตาเลียนของมัมมา ลีโอนีส์เป็นอย่างดี แต่ตามคำพูดที่ว่าต้นร้ายปลายดี การถูกทอดทิ้งของการ์ฟิลด์นำเขาไปสู่จอน อาร์บัคเคิล ทาสแมวที่ดีที่สุดเท่าที่สัตว์เลี้ยงตัวหนึ่งพึงมี

สำหรับเบบี้การ์ฟิลด์ แม้กระทั่งจิม เดวิส ผู้ใช้ชีวิตอยู่กับตัวละครตัวนี้นานกว่าพวกเราทุกคน ก็ยังหลงเสน่ห์เขา “ไม่เอาน่า” เขากล่าว “ใครจะต้านทานดวงตาคู่นั้นได้ล่ะครับ”

 

 

วิค

พากย์เสียงโดยซามวล แอล. แจ็คสัน

วิค พ่อของการ์ฟิลด์ เป็นแมวจรจัดผู้ยิ่งใหญ่ ผู้ใช้ชีวิตอยู่กับการหว่านเสน่ห์และการหลอกลวง เขาเป็นแมวแบบที่ไม่อยู่กับที่ ตามที่อดีตแมวที่สอนเขาเคยบอกเขาเอาไว้ว่า “อย่าปล่อยตัวเองให้ยึดติดกับสิ่งไหนที่นายไม่เต็มใจจะทิ้งภายในเวลาสามสิบวินาที ถ้านายได้กลิ่นหมาหรือคนดูแลสัตว์ตรงหัวมุม” เขาหายตัวไปจากชีวิตของการ์ฟิลด์มานานแล้วภายใต้สถานการณ์ลึกลับ สิ่งที่คุณสามารถเชื่อใจวิคได้คือคุณไม่สามารถเชื่อใจเขาได้ ไม่ว่าเขาจะไปที่ไหน ความวุ่นวาย ยุ่งเหยิงและการผจญภัยจะตามมาอย่างแน่นอน

การแนะนำวิค พ่อของการ์ฟิลด์ผู้เป็นแมวจรจัดตกอับ เป็นเงื่อนงำสำคัญที่บ่งบอกว่าการ์ฟิลด์ได้ฝ่าฟันความท้าทายทั้งหลายทั้งปวงในชีวิตเขาและทะยานสู่การเป็นฮีโรอย่างที่เราเห็นตรงหน้าเราอย่างไร สำหรับมาร์ค ดินดัล ตัวละครตัวนี้จะเป็นแก่นทางอารมณ์ที่สำคัญของภาพยนตร์เรื่องนี้ “ผมตื่นเต้นกับการแนะนำวิค เพราะผมรู้ว่ามีความเป็นไปได้มากมายสำหรับตัวละครตัวนี้ ทั้งสำหรับเรื่องอบอุ่นหัวใจ และสำหรับธีมเกี่ยวกับครอบครัวด้วย” ดินดัลกล่าว “ช่วงเวลาที่อบอุ่นและอ่อนโยน ที่จะดำเนินไปคู่กับตลกเจ็บตัวแบบทุบหัวเข้าบ้านน่ะครับ”

 

จิงซ์

พากย์เสียงโดยฮันนาห์ แว็ดดิงแฮม

จิงซ์เดินทางจากบ้านเกิดในอังกฤษของเธอเพื่อสร้างชื่อในวงการบันเทิง แต่เธอกลับต้องพบเจอกับความจริงอันโหดร้ายของความล้มเหลว เธอสะดุดหลุมครั้งใหญ่และลงเอยด้วยการเร่ร่อนตามท้องถนนจนได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของลูกทีมแมวโจรข้างถนนของวิค ระหว่างการโจรกรรมครั้งหนึ่ง ที่พวกเขาไปปล้นร้านขายผลิตภัณฑ์จากนมที่มีชื่อว่า แล็คโตส ฟาร์ม เธอถูกจับได้และถูกส่งตัวไปยังสถานกักกัน เธอรู้สึกว่าถูกวิคหักหลัง ชีวิตที่ยากลำบากในคุกเปลี่ยนความขื่นขมที่คุกรุ่นของเธอให้กลายเป็นเพลิงแห่งความโกรธเกรี้ยว ด้วยความช่วยเหลือจากเพื่อนนักโทษแมว โรแลนด์และโนแลน เธอก็ได้หลบหนีเพื่อทวงคืนหนี้แค้นระหว่างเธอกับวิค

การกระทำนี้ถูกยกระดับไปอีกขั้นเมื่อการ์ฟิลด์และโอดี้ถูกจิงซ์ลักพาแมวและหมาไป เพื่อเป็นการแก้แค้นวิค บทนี้พากย์เสียงโดยฮันนาห์ แว็ดดิงแฮม

อ็อตโต้

พากย์เสียงโดยวิง รามส์

ถ้าคุณดื่มนมหรือกินชีสในรัฐบ้านเกิดของการ์ฟิลด์ เชื่อขนมกินได้เลยว่าคุณอาจจะทำแบบนั้นโดยมีกระทิงยิ้มแฉ่งที่ชื่ออ็อตโต้จับตามองคุณอยู่ อ็อตโต้และอีเธล คู่ชีวิตของเขา เป็นวัวมาสค็อทของแล็คโตส ฟาร์ม จนกระทั่งพวกเขาตกงานเนื่องมาจากเครื่องจักรอัตโนมัติและความโลภของบริษัทยักษ์ใหญ่ เขาถูกปล่อยไว้ที่ทุ่งหญ้าและตอนนี้ เขาก็ใช้เวลาไปกับการเล็มหญ้าที่หุบเขาใกล้ๆ เพียงเพื่อจะได้แอบดูอีเธล ที่รักของเขา ที่ถูกจัดแสดงที่สวนสัตว์ขนาดเล็ก วันเวลาทำให้หนังของเขาอ่อนนุ่มลงแต่ก็ทำให้ความมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือเธอแรงกล้าขึ้น ในตอนที่การ์ฟิลด์, วิคและโอดี้ต้องการความช่วยเหลือในการบุกเข้าไปในแล็คโตส ฟาร์ม อ็อตโต้อาจจะเป็นความหวังเพียงหนึ่งเดียวของพวกเขา

เมื่อถูกบีบให้ต้องวางแผนและดำเนินการปล้นที่แล็คโตส ฟาร์ม การ์ฟิลด์, โอดี้และวิคจะต้องมีไม้เด็ดเก็บเอาไว้ ไม่ได้หลอกกันนะ ซึ่งไม้เด็ดที่ว่านั่นก็คือกระทิงที่ชื่ออ็อตโต้นั่นเอง เขาคงจะเป็นกระทิงต่อให้กับพวกเขาได้ถ้าเขาไม่โดนไล่ออกจากที่นั่นเสียก่อน ตอนนี้ เป้าหมายเพียงหนึ่งเดียวของเขาอยู่ที่การช่วยเหลือ อีเธล วัวที่รักของเขา ที่ถูกขังอยู่ภายในอาณาเขตของศัตรู ออกมาให้ได้

 

โรแลนด์และโนแลน

พากย์เสียงโดยเบรทท์ โกลด์สไตน์และโบเวน หยาง

โรแลนด์และโนแลนเป็นลูกสมุนของจิงซ์ เป็นลูกกระจ็อกและมือเท้าสุนัขของเธอ พวกเขาตกลงร่วมมือกับจิงซ์ในตอนที่ทั้งสามตัวเป็นเพื่อนนักโทษในสถานกักกันภายใต้การรักษาความปลอดภัยขั้นสูง โนแลนเป็นสุนัขพันธุ์ชาเป่ยตัวอ้วนกลมที่มีสำเนียงลอนดอนทางใต้ ผู้อ้างว่า “เขาจะไม่มีทางหน้าย่น” ส่วนโนแลเป็นสุนัขพันธุ์วิปเพ็ทไหล่ห่อ ผู้ซึ่งความคึกคักระยะสั้นของเขาจะสงบลงได้ด้วยอ้อมกอดที่อ่อนโยนและย่นยู่ยี่ของโรแลนด์เท่านั้น

 

ประวัตินักพากย์

คริส แพรทท์ (การ์ฟิลด์) ได้สร้างฐานะที่มั่นคงให้กับตัวเองในฐานะดาราฮอลลีวูดระดับโลก ผู้รับผิดชอบรายได้กว่าหนึ่งหมื่นพันล้านเหรียญในบ็อกซ์ออฟฟิศ ซึ่งตัวเลขก็ยังไม่หยุดเพียงเท่านี้ด้วย

ล่าสุด แพรทท์ได้พากย์เสียงภาพยนตร์อนิเมชันที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงเรื่อง The Super Mario Bros. Movie ในบทมาริโอ ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำรายได้กว่า 1.3 พันล้านเหรียญในบ็อกซ์ออฟฟิศทั่วโลก

ในปี 2019 แพรทท์ได้แสดงในภาพยนตร์ที่ทำลายสถิติเรื่อง Avengers: Endgame ซึ่งทำรายได้กว่า 2.7 พันล้านเหรียญทั่วโลก โดยภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาคต่อของ Avengers: Infinity War ซึ่งทำรายได้ไปกว่า 2 พันล้านเหรียญในบ็อกซ์ออฟฟิศทั่วโลกด้วยเช่นกัน ก่อนหน้านั้น สตาร์ ลอร์ด ตัวละครของแพรทท์เป็นตัวเอกของแฟรนไชส์มาร์เวลเรื่อง Guardians of the Galaxy ภาคแรกของแฟรนไชส์นี้เป็นหนึ่งในสามภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดของปี 2014 ด้วยรายได้กว่า 770 ล้านเหรียญในบ็อกซ์ออฟฟิศทั่วโลก Guardians of the Galaxy Vol. 2 แซงหน้าภาพยนตร์ทุกเรื่องที่เปิดตัวในช่วงฤดูร้อนปี 2017 และทำรายได้แซงหน้าภาคแรกด้วยรายได้กว่า 860 ล้านเหรียญทั่วโลก ภาคสามในแฟรนไชส์ Guardians เข้าฉายในวันที่ 5 พฤษภาคม ปี 2023 และทำรายได้ไปกว่า 845 ล้านเหรียญในบ็อกซ์ออฟฟิศทั่วโลก

ด้วยการแสดงที่โดดเด่นมากมายในภาพยนตร์กว่า 150 เรื่อง ซามวล แอล. แจ็คสัน (วิค) เป็นหนึ่งในนักแสดงระดับโลกที่ได้รับการยกย่องและเป็นที่รักมากที่สุด เขาได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลอคาเดมี อวอร์ด, ลูกโลกทองคำและโทนี อวอร์ด ได้รับรางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมจากสถาบันศิลปะภาพยนตร์และโทรทัศน์อังกฤษและรวมแล้วภาพยนตร์ของเขาทำรายได้ในบ็อกซ์ออฟฟิศทั่วโลกมากกว่านักแสดงคนอื่นๆ

ปัจจุบัน แจ็คสันครองสถิติในการปรากฏตัวในภาพยนตร์ของโลกภาพยนตร์มาร์เวลมากที่สุด คือสิบสองครั้ง โดยเขาได้ปรากฏตัวครั้งล่าสุดในบทนิค ฟิวรีใน The Marvels ปี 2023 ภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ รวมถึง Iron Man, Iron Man 2, Thor, Captain America: The First Avenger, The Avengers, Captain America: The Winter Soldier, Avengers: Age of Ultron, Avengers: Infinity War, Avengers: Endgame, Captain Marvel และ Spider-Man: Far From Home นอกเหนือจากนั้น เขายังได้แสดงในซีรีส์จักรวาลมาร์เวลสองเรื่อง รวมถึง “Agents of S.H.I.E.L.D” และซีรีส์ออริจินอลทางดิสนีย์พลัสเรื่อง “Secret Invasion”

นิค ฟิวรีเป็นเพียงแค่ตัวอย่างหนึ่งของผลงานของแจ็คสันในฐานะผู้ทรงอิทธิพลของแฟรนไชส์ ก่อนหน้านี้ แจ็คสันได้แสดงในไตรภาคพรีเควล Star Wars ในบทเมซ วินดู ในภาพยนตร์เรื่อง Star Wars: Episode 1 – The Phantom Menace, Star Wars: Episode II – Attack of the Clones และ Star Wars: Episode III – Revenge of the Sith ก่อนที่จะได้พากย์เสียงตัวละครตัวนี้ใน “Star Wars: The Clone Wars” ผลงานในแฟรนไชส์อื่นๆ ของเขารวมถึงมิสเตอร์กลาสในไตรภาคของเอ็ม. ไนท์ ชยามาลาน ซึ่งแจ็คสันแสดงใน Unbreakable และ Glass และได้พากย์เสียงโฟรโซนในภาพยนตร์พิกซาร์เรื่อง The Incredibles และ Incredibles 2

 

มาร์ค ดินดัล (ผู้กำกับ) เริ่มหลงใหลในอนิเมชันตั้งแต่อายุหกขวบและได้ทำความฝันของเขาให้เป็นจริงเมื่อเขาได้รับการฝึกฝนโดยนักวาดภาพคนเก่าแก่ของดิสนีย์ที่แคลิฟอร์เนีย อินสติติวท์ ออฟ ดิ อาร์ตส์ หลังจากเรียนที่แคลอาร์ตส์ได้สองปี เขาก็ได้รับการว่าจ้างจากดิสนีย์ สตูดิโอส์และเริ่มต้นทำงานในแผนกเอฟเฟ็กต์ อนิเมชันในภาพยนตร์เรื่อง The Fox and the Hound เขาเดินหน้าทำงานเอฟเฟ็กต์ อนิเมชันในภาพยนตร์เรื่อง on Aladdin, Beauty and the Beast และ Mickey’s Christmas Carol เขารับหน้าที่ซูเปอร์ไวเซอร์ฝ่ายวิชวล เอฟเฟ็กต์ใน The Little Mermaid

นักเขียนการ์ตูน นักเขียน ผู้อำนวยการสร้าง ผู้กำกับ ประธาน ผู้ก่อตั้ง มือเขียนบท นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ผู้ทำการกุศล คำเหล่านี้สามารถใช้พูดถึง จิม เดวิส (สร้างขึ้นจากตัวละครการ์ฟิลด์ที่สร้างขึ้นโดย) ผู้โด่งดังที่สุดจากการเป็นผู้สร้าง “Garfield” ได้ทั้งสิ้น

เขาเกิดเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม ปี 1945 ในเมืองมาริออน รัฐอินเดียนา และเติบโตขึ้นในฟาร์มเล็กๆ กับพ่อแม่ของเขา จิมและเบ็ตตี้ เดวิส และน้องชายของเขา เดฟ (ด็อค) เช่นเดียวกับฟาร์มส่วนใหญ่ โรงนาแห่งนี้ได้รับอุปการะแมวจรจัดด้วยเช่นกัน โดยจิมกะประมาณเอาไว้ว่ามีครั้งหนึ่ง พวกเขาได้เลี้ยงแมวถึง 25 ตัว สมัยเด็ก เขามีอาการหอบอย่างหนักและมักจะต้องนอนป่วย เมื่อถูกบีบให้ต้องอยู่แต่ในบ้าน ห่างไกลจากกิจวัตรในฟาร์มตามปกติ เขาก็ใช้เวลาไปกับการวาดภาพ

หลังจากศึกษาหน้าหนังสือการ์ตูนอย่างใกล้ชิด เขาก็สังเกตว่ามีการ์ตูนเกี่ยวกับสุนัขที่ประสบความสำเร็จมากมาย แต่ไม่มีการ์ตูนเกี่ยวกับแมวเลย! ด้วยการผสมผสานอารมณ์ตลกร้ายกับทักษะด้านศิลปะที่เขาขัดเกลามาตั้งแต่เด็ก การ์ฟิลด์ แมวอ้วนขี้แซะ ขี้เซาและโปรดปรานลาซานญ่าเป็นที่สุดก็ได้ถือกำเนิดขึ้นมา เดวิสกล่าวว่า การ์ฟิลด์เป็นแมวที่รวมเอาแมวทุกตัวที่เขาจดจำได้จากวัยเด็กของเขามาม้วนให้กลายเป็นเจ้าก้อนขนแสบซ่าส์สีส้ม ชื่อของการ์ฟิลด์มาจากชื่อเจมส์ การ์ฟิลด์ เดวิส ซึ่งเป็นชื่อของคุณปู่ของเขา

การ์ตูนช่องเรื่องนี้เปิดตัวในวันที่ 19 มิถุนายน ปี 1978 ในหนังสือพิมพ์อเมริกัน 41 ฉบับ หลายเดือนหลังจากการเปิดตัว ชิคาโก้ ซัน-ไทม์ก็ได้ยกเลิกเรื่อง GARFIELD ผู้อ่านที่โกรธเคืองกว่า 1300 คนเรียกร้องให้นำ GARFIELD กลับมาลงใหม่ และที่เหลือก็กลายเป็นเรื่องของประวัติศาสตร์ไปแล้ว อย่างที่ใครๆ เขาพูดกัน ปัจจุบัน GARFIELD ถูกอ่านโดยผู้คน 200 ล้านคนในหนังสือพิมพ์กว่า 2400 ฉบับ กินเนส เวิลด์ เรคคอร์ดส์ได้ยกย่อง GARFIELD ว่าเป็น “การ์ตูนช่องที่แพร่หลายที่สุดในโลก” เพื่อนพ้องของเดวิสในสมาคมนักเขียนการ์ตูนแห่งชาติได้ยกย่องเขาด้วยรางวัลการ์ตูนช่องขำขันยอดเยี่ยม (ปี 1981 และ 1985), รางวัลเอลซีย์ ซีการ์ อวอร์ด (1990) และรางวัลรูเบน อวอร์ด (1990) รางวัลทรงคคุณค่าที่มอบให้กับนักเขียนการ์ตูนโดยสมาชิกของสมาคมนักเขียนการ์ตูนแห่งชาติ

Garfield กลายเป็นที่ฮือฮาในวงการลิขสิทธิ์อย่างรวดเร็วเช่นเดียวกัน ซึ่งก็เป็นแรงบันดาลใจให้เดวิสก่อตั้งบริษัทของตัวเองเพื่อดูแลธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ Garfield บริษัทพอว์ส, อิงค์. ก่อตั้งขึ้นในปี 1981 และทำหน้าที่จัดการสิทธิทั่วโลกสำหรับแมวอ้วนผู้โด่งดัง โดยมีเดวิสรับหน้าที่ประธานของบริษัทที่ตั้งอยู่ที่อินเดียนา

ชื่อเสียงของการ์ตูนเรื่อง Garfield ยังข้ามไปสู่จอแก้วด้วยเช่นกัน และเดวิสก็ได้เขียนนบทตอนพิเศษช่วงไพรม์ไทม์สิบเอ็ดตอนให้กับซีบีเอส เขาได้รับการเสนอชื่อชิงสิบรางวัลเอ็มมี อวอร์ดและได้รับสี่รางวัลเอ็มมี อวอร์ดในสาขารายการอนิเมชันดีเด่น หลังจากนั้น ก็เป็นคราวของภาพยนตร์และทเวนตี้ เซ็นจูรี ฟ็อกซ์ก็ได้สร้างภาพยนตร์สองเรื่องได้แก่ Garfield: The Movie (‘04) และ Garfield: A Tail of Two Kitties (‘06) นอกจากนี้ เดวิสยังได้เขียนบทภาพยนตร์ออริจินอลและรับหน้าที่ผู้ควบคุมงานสร้างภาพยนตร์อนิเมชันสามเรื่องที่ลงดีวีดี ได้แก่ Garfield Gets Real, Garfield’s Fun Fest และ Garfield’s Pet Force ด้วย

Family/Animated/Comedy

Released Date: May 22, 2024

 

Garfield (voiced by Chris Pratt), the world-famous, Monday-hating, lasagna-loving indoor cat, is about to have a wild outdoor adventure! After an unexpected reunion with his long-lost father – scruffy street cat Vic (voiced by Samuel L. Jackson) – Garfield and his canine friend Odie are forced from their perfectly pampered life into joining Vic in a hilarious, high-stakes heist.

 

Based on the Garfield® characters

created by:                                                       Jim Davis

 

Cast:                                                                Chris Pratt

Samuel L. Jackson

ปิดเทอมนี้ การ์ฟิลด์ (พากย์เสียงโดย คริส แพร็ตต์ แห่ง Guardians of The Galaxy) แมวอ้วนจอมกวนตัวสีส้มแสนโด่งดัง ผู้เกลียดวันจันทร์เป็นที่สุด และรักการสวาปามลาซานญ่าเหนือสิ่งอื่นใด เขาจะกลับมาอีกครั้ง… มาคราวนี้การ์ฟิลด์จะต้องเผชิญกับการผจญภัยโหด-มันส์-ฮาที่ต้องปุเลงๆ ตระเวณไปไกลจากบ้าน!

 

วันหนึ่ง การ์ฟิลด์ได้พบกับวิค แมวจรข้างถนนโดยไม่คาดฝัน (พากย์เสียงโดยนักแสดงเจ้าบทบาท แซมมวล แอล. แจ็คสัน จาก The Avengers) วิคคือพ่อของการ์ฟิลด์ที่หายสาบสูญไปนานแสนนาน การ์ฟิลด์และโอดี้คู่หู จำต้องจากจอน (พากย์เสียงโดย นิโคลัส เฮาลต์ จาก Warm Bodies, X-Men: Days of Future Past) ออกจากบ้านที่แสนอบอุ่นสุขสบาย เพื่อไปร่วมด้วยช่วยกันกับวิคในการผจญภัยสุดหินและการปล้นสุดหฤหรรษ์ งานนี้การ์ฟิลด์ต้องเจองานหิน และต้องเอาชนะแก๊งตัวร้าย…เดิมพันครั้งนี้ใหญ่และยากแบบที่การ์ฟิลด์จะกวนโอ๊ยไม่ออกอีกต่อไป เตรียมพบกับจอมป่วนโลกอย่างการ์ฟิลด์  พร้อมด้วยโอดี้  วิค และก๊วนแก๊งตัวตึง ใน เดอะ การ์ฟิลด์ มูฟวี่

ภาพยนตร์แอนิเมชั่นผจญภัยแสนสนุก

แถมยังตลบอบอวลด้วยมิตรภาพซึ้งๆ ที่จะทำให้ทั้งทาสแมวและแม้ไม่ใช่ทาสแมวหลงรัก

พุธที่ 22 พฤษภาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์

#GarfieldMovie

#Garfield

#ChrisPratt

#เดอะการ์ฟิลด์มูฟวี่

 

 

ตัวอย่างภาพยนตร์ The Garfield Movie [Official – Sub Thai]

 

ตัวอย่างภาพยนตร์ Garfield [Official – Sub Thai]