สิงคโปร์29 มิถุนายน 2567 – โปรดิวเซอร์และผู้กำกับนายองซอก ร่วมด้วยทีมนักแสดงอย่าง อีซอจินจองยูมีพัคซอจุนชเวอูชิก และโกมินชี รวมตัวกันในงานแถลงข่าวในกรุงโซล เพื่อเปิดตัวรายการ Jinny’s Kitchen 2 (ครัวจินนี่ ซีซั่น 2) ซึ่งเป็นการกลับมาอีกครั้งของรายการวาไรตี้เกาหลีแบบไม่สคริปต์ ที่จะพาไปตามติดภารกิจเปิดร้านอาหารเกาหลีของเหล่านักแสดงชื่อดัง โดยในซีซั่นนี้พวกเขาจะต้องปรุงอาหารและเสิร์ฟอาหารเกาหลีแสนอร่อยให้กับลูกค้าในเมืองเรคยาวิก ประเทศไอซ์แลนด์ รายการ Jinny’s Kitchen 2 สามารถรับชมได้แล้วที่ Prime Video ในมากกว่า 240 ประเทศและเขตแดนทั่วโลก ตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายน ที่ผ่านมา

 [จากซ้าย: นายองซอกชเวอูชิกอีซอจินจองยูมีโกมินชีพัคซอจุนพัคฮยอนยอง]

และต่อไปนี้คือเหตุผลที่คุณไม่ควรพลาดชมซีซั่นที่สองของรายการวาไรตี้ยอดฮิตรายการนี้

 

1. บรรยากาศถ่ายทำในดินแดนใหม่ “ไอซ์แลนด์”
ในงานแถลงข่าว นายองซอกได้เล่าถึงที่มาที่ไปว่าทำไมจึงเลือกเมืองเรคยาวิก ประเทศไอซ์แลนด์ให้เป็นสถานที่ถ่ายทำรายการในซีซั่นนี้ โดยบอกว่า “ก่อนหน้านี้เรามักจะคุยกันว่าอยากจะทำซุปร้อนๆ ให้ลูกค้าในประเทศที่อากาศหนาวเย็น เราก็เลยมองหาประเทศต่างๆ ที่มีอากาศหนาวกว่าเกาหลี และเมื่อลองศึกษาเรื่องราวของไอซ์แลนด์ เราก็พบว่าที่นั่นไม่มีร้านอาหารเกาหลีที่เจ้าของเป็นคนเกาหลีเลย และเนื่องจากเป้าหมายของพวกเราคือการแบ่งปันอาหารเกาหลีในต่างประเทศ เราจึงเลือกที่จะเปิดร้านอาหารในเมืองหลวงของไอซ์แลนด์แห่งนี้” นอกจากนี้ วิวทิวทัศน์ที่ปกคลุมด้วยหิมะของไอซ์แลนด์ ยังเป็นอีกหนึ่งวิธีหลีกหนีจากฤดูร้อนที่อบอ้าวที่ไม่เลวเลย

2. เคมีที่สั่งสมยาวนาน จนกลายเป็นมิตรภาพเหนียวแน่นที่หาไม่ได้ง่ายๆ
ทีมนักแสดงของ Jinny’s Kitchen 2 เคยร่วมงานกันมาก่อนในรายการอื่นๆ เช่น รายการ Youn’s Kitchen โดยผู้กำกับนายองซอกกล่าวว่า “มันเป็นเรื่องยากมากที่เราจะสามารถเปิดร้านอาหารที่สมาชิกทุกคนมีเคมีที่เข้ากันได้ดีขนาดนี้ และพวกเขาก็มีโอกาสได้ออกรายการหรือมีงานแสดงร่วมกันมากมายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ผมคิดว่าตอนนี้พวกเขามีมิตรภาพที่แนบแน่นและความร่วมมือร่วมใจกันอย่างที่สุด และอยากจะให้ผู้ชมได้เห็นภาพบรรยากาศการทำงานด้วยสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นนี้ ในรูปแบบที่เพลิดเพลินที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”

 

3. เด็กฝึกงานน้องใหม่ โกมินชี

นอกจากทีมนักแสดงที่แฟนๆ หลงรักและคุ้นหน้าคุ้นตากันอยู่แล้ว ในซีซั่นนี้เรายังจะได้พบกับเด็กฝึกงานคนใหม่ที่มาเข้าร่วมทีมอย่าง โกมินชี อีกด้วย นายองซอกเล่าว่า ในระหว่างที่ใคร่ครวญว่าแล้วจะเลือกใครมารับตำแหน่งเด็กฝึกคนใหม่ เขาก็รู้สึกประทับใจโกมินชีซึ่งมีเคยประสบการณ์ทำงานเป็นนักวางแผนจัดงานแต่ง ส่วนชเวอูชิกก็ชื่นชมจรรยาบรรณในการทำงานที่ยอดเยี่ยมของเธอพร้อมกับตั้งฉายาให้เป็น “มักเน่สุดยอดเด็กฝึกงาน” (maknae superintern) อีกด้วย โดยโกมินชีบอกว่าเธอรู้สึก “กังวลและตื่นเต้นมาก” เธออธิบายว่ารายการนี้เป็นเหมือน “ประสบการณ์ล้ำค่าที่หาได้ยาก” พร้อมกับบอกว่าเธออยากจะช่วยเหลือทีมให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้

 

4. เชฟประจำวัน
อีกหนึ่งมิติใหม่ที่จะสร้างความเพลินใจให้ผู้ชมในซีซั่น ก็คือการได้เห็นสมาชิกในทีมผลัดกันเป็นเชฟประจำวัน อีซอจินอธิบายว่า “ในครั้งนี้เราจะผลัดกันเป็นเชฟหลักในครัว เราจะมีรายการอาหารพิเศษหลายจาน ซึ่งหมายความว่าเมนูในแต่ละวันก็จะแตกต่างกันออกไป” ขณะที่พัคซอจุนกล่าวเสริมว่า “มันเป็นความรู้สึกที่สนุกและสดชื่นมากครับ ที่ได้เปลี่ยนเชฟประจำวันทุกวัน เพราะว่าคุณจะได้สัมผัสการทำงานทั้งในห้องครัวและหน้าร้าน” จากเดิมที่พนักงานแต่ละคนรับบทบาทเดิมตั้งแต่ต้นจนจบ ในซีซั่นนี้ผู้ชมก็จะได้สนุกกับการได้เห็นสมาชิกในทีมแต่ละคนรับมือกับทั้งบทบาทของตัวเอง และการเป็นเชฟประจำวัน

5. มากกว่าแค่ร้านอาหาร แต่คือประสบการณ์อบอุ่นใจ
Jinny’s Kitchen 2 นั้นแตกต่างจากรายการร้านอาหารทั่วๆ ไปที่คุณเคยได้รับชม การเดินทางของเหล่านักแสดงจะทำให้คุณเกิดอารมณ์ความรู้สึกหลากหลายและประสบการณ์ฟีลกู๊ดกลับไป นายองซอกอธิบายว่า “รายการของเราเป็นรายการร้านอาหาร แต่ก็ไม่ใช่เรื่องของร้านอาหารจริงๆ ถ้าเป้าหมายเดียวของเราคือการแบ่งปันอาหารเกาหลีให้ชาวต่างชาติได้ลิ้มลอง เราก็คงจะพาเชฟชั้นนำจากเกาหลีมาร่วมรายการ เราอยากจะแบ่งปันอาหารเกาหลีกับผู้คนในต่างประเทศก็จริง แต่เรายังต้องการแสดงให้เห็นถึงกระบวนการ การเติบโต เคมีที่ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นจากการทำอาหาร และการทำงานร่วมกันของสมาชิกในทีมด้วย ผมคิดว่าสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดมีความสำคัญพอๆ กับการบริหารจัดการร้านอาหารเลย”

ได้รู้อย่างนี้แล้วก็อย่ารีรอ ไปรับชม Jinny’s Kitchen 2 กันเลย ที่ Prime Video เท่านั้น!

 

###