“FLY ME TO THE MOON” ทะยานฟ้าสู่พื้นจันทร์  ภาพยนตร์เรื่องล่าสุดจากค่าย โซนี่ พิคเจอร์ส  คอเมดีดรามาสไตล์เฉียบคม ที่มีฉากหลังเป็นความเสี่ยงอันตรายของภารกิจทะยานสู่ดวงจันทร์ของยานอพอลโล 11 โดยนาซา ที่ได้รับการจารึกไว้ในประวัติศาสตร์     เมื่อ เคลลี โจนส์ (สการ์เล็ตต์ โยฮันสัน ) ถูกนำตัวเข้ามาเพื่อปรับภาพลักษณ์นาซา  ไอเดียที่กล้าบ้าบิ่นของ เจ้าแม่การตลาด มันขัดแย้งกับภารกิจของโคล เดวิส  ( แชนนิง ทาทัม  ) ผู้อำนวยการฝ่ายปล่อยยานอวกาศ   โจนส์ถูกสั่งให้จัดฉากการลงสู่ดวงจันทร์ปลอมเพื่อใช้เป็นแผนสำรอง  หรือเธออาจจะเป็นอาวุธลับที่หน่วยงานอวกาศแห่งนี้ต้องการก็ได้  ?

โซนี่ พิคเจอร์ส ภูมิใจเสนอ ผลงานการสร้างโดย ดีส พิคเจอร์ส ( บริหารงานโดย สการ์เล็ตต์ โยฮันสัน)  Fly Me to the Moon นำแสดงโดย สการ์เล็ตต์ โยฮันสันแชนนิง ทาทัม พร้อมด้วย จิม แรช,แอนนา การ์เซียโดนัลด์ เอลิส วัตกินส์โนอาห์ ร็อบบินส์โคลิน วู้ดเดลคริสเตียน ซูเบอร์นิค ดิลเลนเบิร์ก ร่วมด้วยเรย์ โรมาโนและวู้ดดี้ ฮาร์เรลสัน กำกับโดย เกร็ก เบอร์แลนติ

                                                                                         

ใน Fly Me to the Moon นักขายช่างประชดประชันก็คือ เคลลี โจนส์ บทบาทที่ สการ์เล็ตต์ นำแสดง เธอเปิดเผยว่า   “เคลลี โจนส์ เธอคือกูรูงานโฆษณาและการตลาดชาวแมนฮัตตัน ปรมาจารย์หัวคิดสร้างสรรค์ อัจฉริยะด้านการทำแบรนด์ เธอมาถึงจุดนี้ได้เพราะเธอเก่งกาจที่สุดในสิ่งที่เธอทำ…และถ้าเธอแหกกฎซักข้อสองข้อ หรือแม้แต่จะพูดโกหกซักเรื่องสองเรื่อง เพื่อช่วยเหลือลูกค้าของเธอ…และบอกเล่าเรื่องราวที่ดีที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้  แม้ว่ามันจะไม่ใช่ความจริงซะทั้งหมดก็ตาม…มันจะเสียหายตรง ไหนกันล่ะ ซึ่งตอนที่นาซาเตรียมพร้อมที่จะทำภารกิจทะยานสู่ดวงจันทร์ของประธา นาธิบดีเคนเนดี้ ผู้ล่วงลับ ให้สำเร็จลุล่วง มันก็เป็นหน้าที่ของโม เบอร์คัส เจ้าหน้าที่รัฐลึกลับ ผู้เชื่อว่าโครงการอวกาศนี้จำเป็นต้องได้รับการปรับภาพลักษณ์ใหม่ในความคิดของสาธารณชน เขาได้หลอกล่อ เคลลี (สการ์เล็ตต์) มาที่ฟลอริดาเพื่อขายภารกิจดวงจันทร์ให้กับประชาชนชาวอเมริกัน

ที่เคป เคนเนดี้ เธอได้พบกับโคล เดวิส ( แชนนิง ) หนุ่มคนซื่อ อดีตนักบินกองทัพอากาศ ที่ตอนนี้ทำหน้าที่ผู้อำนวยการฝ่ายปล่อยยานอวกาศให้กับนาซา ไอเดียที่ว่า ดวงจันทร์จะต้องถูก “ขาย” ให้กับใครๆ ทำให้เขาขุ่นเคืองอย่างรุนแรง เขาคิดว่าแค่พลังที่น่ามหัศจรรย์ของภารกิจนี้ ความสำเร็จสูงสุดของมนุษยชาติ ก็น่าจะเพียงพอแล้ว เขาเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับสิ่งที่จับต้องได้และมองว่าเธอเป็นอุปสรรคค่ะ”

            “เคลลีเข้ามาราวกับเฮอร์ริเคน และในความคิดของเขาเธอพังทุกอย่างและสร้างปัญหามาก กว่าคำตอบ ทั้งๆที่จริงๆแล้วเธอเป็นหลักสำคัญของเรื่องทั้งหมดนี้คะ แน่นอนว่าในที่สุดพวกเขาปรับ ความเข้าใจกันได้  พวกเขาขัดแย้งกันในตอนเริ่มเรื่อง แต่พวกเขาก็อาจจะมีอะไรเหมือนๆ กันมาก กว่าที่พวกเขาคิด วิธีการที่ไม่ธรรมดาของเคลลีทั้งสร้างแรงบันดาลใจให้กับโคลและขัดใจเขาเช่น เดียวกัน ในตอนที่เขาทำให้วิศวกรของนาซาไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับงานประชาสัมพันธ์ เธอก็จ้างนักแสดงมารับบทดังกล่าว ในขณะเดียวกัน เธอก็ให้วิศวกรนาซาตัวจริงมาเปลี่ยนออฟฟิศที่คับแคบของเธอ ให้กลายเป็นสถานที่ทำงานที่สดใสและมีชีวิตชีวา แต่โคลก็ค่อยๆ มองเห็นได้ว่าวิธีการเหล่า นี้เป็นไปเพื่อเป้าหมายที่พวกเขามีร่วมกัน “พวกเขาต่างก็เป็นคนที่มีความรู้สึกหลงใหล และเมื่อพวกเขาอยู่เบื้องหลังอะไรซักอย่าง สิ่งนั้นก็จะสำเร็จอย่างแน่นอน พวกเขาพบสิ่งที่พวกเขาคิดเหมือนๆ กันและไขว่คว้าดวงดาว หรือฉันว่าในกรณีนี้ มันคงเป็นดวงจันทร์มากกว่า”

จุดเริ่มต้นของโปรเจ็กต์  ใน Fly Me to the Moon

สการ์เล็ตต์ โยฮันสัน เป็นผู้นำ ไม่ใช่เพียงแต่หน้ากล้องในบทเคลลี แต่ยังรวมถึงหลังกล้องในฐานะผู้อำนวยการสร้าง ผ่านทาง ดีส พิคเจอร์ส บริษัทของเธอด้วย    

โยฮันสัน  “ฉันไม่เคยตั้งใจจะรับบทเคลลีเลย แต่ตอนที่บทหนังเรื่องนี้เข้ามา มันก็ยอดเยี่ยมเหลือเกิน มันเป็นบทที่วิเศษสุดและไดอะล็อคก็แข็งแรงมากๆ ในฐานะผู้อำนวยการสร้างผู้หญิง ที่ทำงานกับมือเขียนบทผู้หญิง ผู้สร้างตัวละครหญิงแกร่งขึ้นมา มันก็ให้ความรู้สึกที่ใช่ค่ะ เมื่อฉันต้องแสดงบทนี้    สำหรับงานกำกับสำหรับฉัน ฉันเลือก ตามตื๊อ และท้ายที่สุดพวกเราก็กล่อม “เกร็ก เบอร์แลนติ” ให้มากำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ได้สำเร็จคะ  เบอร์แลนติ คือหนึ่งในมือเขียนบท/ผู้อำนวยการสร้างจอแก้วที่มีผลงานมากที่สุด ผลงานของเขาภาพยนตร์ปี 2018 เรื่อง Love, Simon  ได้รับเสียงวิจารณ์ชื่นชมและกลายเป็นขวัญใจของผู้ชมมากมายคะ  ตอนที่เราทาบทามเขา ตอนนั้นเบอร์แลนติมีงานยุ่งมากและผลงานภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของเขาก็เข้าฉายตั้งหกปีมาแล้ว  เกร็กแทบจะไม่เคยไขว่คว้าหาโปรเจ็กต์ไหนเลย แต่เขาเข้าใจบทหนังเรื่องนี้ตั้งแต่นาทีแรกที่เขาได้อ่านมัน และเขาก็รู้สึกอย่างแรงกล้าว่าเขารู้วิธีที่จะเล่าเรื่องราวนี้อย่างไร”        

                   เกร็ก เบอร์แลนติ ผู้กำกับ  ผู้มักจะทำงานทั้งหมดของเขา ไม่ว่าจะในฐานะผู้กำกับ หรือมือเขียนบท หรือผู้อำนวยการสร้าง  จากมุมมองความเป็นมนุษย์ อารมณ์ขันและหัวใจ เขาเชี่ยวชาญด้านการผสมผสานโทนต่างๆ ทางด้านอารมณ์  การรักษาทุกสิ่งที่วิเศษสุดเกี่ยวกับบทเอาไว้ ทั้งความแปลกใหม่ของมัน ฉากเยี่ยมๆ ทั้งหมด แล้วจับมันมาผสมกันเพื่อให้ผู้ชมได้เพลิดเพลิน  และเขาหลงเสน่ห์แนวคิดของภาพยนตร์เกี่ยวกับอพอลโล 11   ตอนเป็นเด็กผมคลั่งเรื่องอวกาศมาก  ตอนที่เรามีลูกชายเมื่อแปดปีที่แล้ว สิ่งแรกที่เราซื้อมาแต่งห้องของเขาคือภาพขนาดเท่าของจริงของชุดนักบินอวกาศของนีล อาร์มสตรองครับ องค์ประกอบที่ทำให้ Fly Me to the Moon แตกต่างจากภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ในแนวเดียวกัน  ไม่มีเหตุผลอะไรที่พวกเขาต้องอยู่ด้วยกัน พวกเขามองโลกไม่เหมือนกันเลย มันเป็นเพราะ ว่าพวกเขาถูกบีบให้อยู่ด้วยกัน และต้องร่วมงานกัน พวกเขามองเห็นถึงสิ่งที่เหลือเชื่อ และเห็นว่าอีกคนหนึ่งสามารถเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไปของพวกเขาได้ ถ้าภารกิจในการทะยานสู่ดวงจันทร์ของเคลลีและโคลถูกสะท้อนให้เห็นในการที่พวกเขาได้รวมใจกันภายใต้ดวงจันทร์ล่ะก็…นั่นก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ  นอกจากดวงจันทร์แล้ว ความทะเยอทะยานที่สุดที่คนเราจะเล็งเป้าได้ ความปรารถนาของทั้งสองคน การมุ่งสู่ดวงจันทร์ หรือการปล่อยให้ตัวเองตกอยู่ในห้วง ต่างก็ต้องอาศัยการก้าวไปสู่ดินแดนที่ไม่เคยรู้จัก ดวงจันทร์เป็นสิ่งลึกลับและมหัศจรรย์ครับ”

การร่วมงานกับ “นาซ่า”

Fly Me to the Moon ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรนาซาและได้ร่วมงานกับที่ปรึกษาด้านเทคนิคหลายคน ผู้มีบทบาทสำคัญในหน่วยงานด้านอวกาศในช่วงโครงการอพอลโล   ทุกคนอาจจะคิดว่าคงเป็นเรื่องยากที่จะได้รับความร่วมมือจากนาซา สำหรับภาพยนตร์ที่เล่าถึงบุคคลลึกลับจากรัฐบาลสหรัฐฯ ที่สั่งให้มีการถ่ายทำฉากลงสู่ดวงจันทร์ปลอมขึ้นมา หลายคนเชื่อว่าทฤษฎีสมคบคิดนั้นเป็นเรื่องจริง ไม่ว่าจะมีหลักฐานมากมายแค่ไหนว่ามนุษย์ได้ไปเหยียบบนดวงจันทร์จริงๆ

“หลายคนบอกเราว่าเราเสียเวลาไปกับการขออนุญาตถ่ายทำที่เคนเนดี้ สเปซ เซ็นเตอร์ กับหนังที่มีการปลอมฉากลงสู่พื้นดวงจันทร์ แต่นาซาดูบทของเราและเรื่องราวของเราอย่างเป็นกลาง และพวกเขาก็เห็นในสิ่งที่เราเห็นในบทหนังเรื่องนี้ นั่นคือโอกาสในการเฉลิมฉลองความสำเร็จยิ่งใหญ่ในสเกลที่ยิ่งใหญ่ นั่นคือคนจำนวน 400,000 คนที่ทำงานในโครงการนี้     การที่เราได้ร่วมงานกับนาซา  ได้ช่วยเติมเต็มภาพยนตร์เรื่องนี้ให้สมบูรณ์ขึ้น บางที หนึ่งในสิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดสำหรับผู้คลั่งไคล้อวกาศ พวกเราได้รับสิ่งที่วิเศษที่สุด ซึ่งก็คือการได้รับสิทธิในการเข้าถึงฟุตเตจที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อนจากช่วง เวลาของโครงการอพอลโล”

การสนับสนุนจากนาซายังเปิดประตูไปสู่ที่ปรึกษาทางเทคนิคหลายคน ผู้นำเราไปสู่ดวงจันทร์เมื่อกว่าครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา มันเป็นเรื่องสำคัญมากๆ ที่เราจะได้ความสมจริงจากผู้คนที่เคยอยู่ตรงนั้นจริงๆ ครับ พวกเขามีเรื่องราวที่ตัวเราเองไม่อาจจะจินตนาการได้ครับ  เราได้ทำงาน ได้รับคำแนะนำ คำปรึกษาที่ดี จากทุกภาคส่วน และ แฟรงค์ ฮิวจ์ เขาคือหัวหน้าฝ่ายฝึกฝนสำหรับนาซาทั้งหมด ณ ช่วงเวลานั้น เขาเข้าทำงานที่หน่วยงานนี้ครั้งแรกในปี 1966 เขาทำหน้าที่เป็นครูสอนซิมูเลเตอร์ ที่ได้ร่วมงานกับ นีล อาร์มสตรองบัซ อัลดริน และไมเคิล คอลลินส์ (รวมไปถึงนักบินคนอื่นๆ ของยานเจมินีและอพอลโล) ใน Fly Me to the Moon   เขาได้ร่วมงานกับนักแสดง นิค ดิลเลนเบิร์กโคลิน วู้ดเดลและคริสเตียน ซูเบอร์ ผู้ที่มารับบทอาร์มสตรองอัลดรินและคอลลินส์ตามลำดับ เพื่อให้พวกเขาแสดงได้อย่างเหมาะสม สิ่งที่เราทำกันในวันนั้น ไม่เคยมีใครทำมาก่อน ทุกอย่างที่เราทำเป็นสิ่งที่เพิ่งเคยถูกทำขึ้นมาเป็นครั้งแรกครับ”  ผู้กำกับ เกร็ก

งานสร้าง เพื่อนร่วมงานคนสำคัญ เบื้องหลังกล้องของเบอร์แลนติรวมถึงผู้กำกับภาพคนดัง ดาเรียส โวลสกี้ผู้ออกแบบงานสร้างเชน วาเลนติโนแฮร์รี เจียร์เจียน มือลำดับภาพที่ร่วมงานมายาวนานผู้ออกแบบเครื่องแต่งกายในตำนาน แมรี โซเฟรส งานที่ต้องถ่ายทอดสเกลที่ยิ่งใหญ่ของเรื่องราวเกี่ยวกับภารกิจอพอลโล 11 รวมถึงเรื่องราวที่เป็นส่วนตัวของคนสองคนที่มาเจอกัน และถ่วงดุลมันด้วยฟุตเตจออริจินอลจากยุค 1960s ที่เบอร์แลนติรู้ว่าจะอยู่ในภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย

เบอร์แลนติ ผู้กำกับ กล่าว   ส่วนที่ดีที่สุดก็คือการได้กำกับเขาในฐานะนักแสดงครับ ผมดูเขาพูดถึงวิธีที่เราจะสร้างการลงจอดบนดวงจันทร์แบบปลอมๆ ด้วยอุปกรณ์ปี 1969 ผมก็เลยถามดาเรียส (ผู้กำกับภาพ) ว่าเขาจะอยากรับบทผู้กำกับภาพรึเปล่า  ตอนแรก โวลสกี้อาจจะรู้สึกหวั่นใจอยู่บ้าง เพราะเขาไม่ใช่นักแสดง แต่เราก็ทำให้เขามั่นใจ และท้ายที่สุดแล้ว โวลสกี้ก็แสดงได้อย่างเป็นธรรมชาติและมีเสน่ห์มากๆครับ”

“ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเรา คือการจำลองห้องปล่อยยาน แผงจอมอนิเตอร์ที่วิศวกรใน เคป เคนเนดี้ ได้ควบคุมการปล่อยยาน เราสร้างห้องขึ้นมาบนฐานสั่น และเราก็ฉายภาพขึ้นหน้าจอ สำหรับทุกคนในห้องนั้น เราได้จำลองฉากการปล่อยยานขึ้นมาก่อน เพื่อที่พวกเขาจะได้สัมผัสว่าการปล่อยยานจริงๆ เป็นอย่างไร เรามีคนที่เคยอยู่ในห้องปล่อยจรวดดั้งเดิมมาอยู่ตรงนั้นด้วย พวกเขามีน้ำตาคลอเบ้า เมื่อมองไปยังพื้นที่นั่น พลางคิดว่า ‘มันให้ความรู้สึกแบบนั้นเลย’ น่ะครับ”

ตามมาด้วย งานออกแบบเครื่องแต่งกาย ที่เต็มไปด้วยเสื้อผ้าที่ฉูดฉาด เตะตา ที่ผสมผสานทั้งการออกแบบสำหรับตัวละครเอก และเสื้อผ้าที่ใช้ในชีวิตจริงสำหรับตัวละครแบ็คกราวน์ ในฉากที่ให้ตัวละครเอกปรากฏตัวออกมาในฉาก สถานที่ เหตุการณ์ ที่ย้อนไป  โดยเฉพาะ สการ์เล็ตต์ โยฮันสัน ในสไตล์ยุค 60s ที่เหลือเชื่อ ทาทัมในเสื้อฮู้ดแขนยาว และนักแสดงทุกคน การตกหลุมรักกับตัวละครเหล่านี้ คุณจะอยากให้พวกเขาแต่งตัวในแบบที่พวกเขาแต่ง มีลักษณะอย่างที่พวกเขาเป็นครับ”

สการ์เล็ตต์ โยฮันสัน  – แชนนิง ทาทัม – เกร็ก เบอร์แลนติ (ผู้กำกับ)  

สการ์เล็ตต์ โยฮันสัน (เคลลี โจนส์/ผู้อำนวยการสร้าง) นักแสดงเจ้าของรางวัลโทนีและบาฟตาและผู้ได้รับการเสนอชื่อชิงสองรางวัลออสการ์   โยฮันสันได้รับการเสนอชื่อชิงอคาเดมี อวอร์ดสองครั้งแรก ในสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมและนักแสดงสมทหญิงยอดเยี่ยมจากการแสดงของเธอในภาพยนตร์โดยโนอาห์ บอมบัคเรื่อง Marriage Story และภาพยนตร์โดยไทก้า ไวติติ เรื่อง Jojo Rabbit ตามลำดับ และกลายเป็นนักแสดงคนที่สิบสองที่ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลออสการ์สองสาขาในปีเดียวกัน นอกจากนี้ เธอยังได้รับการเสนอชื่อชิงอีกสองรางวัลบาฟตาจากภาพยนตร์สองเรื่องนี้ด้วย ผลงานล่าสุดเรื่องอื่นๆ ของเธอรวมถึง Black Widow, Avengers: Endgame, Avengers: Infinity War, Lucy, Under the Skin, Ghost in the Shell, Isle of Dogs Sing, Sing 2 และ Her ที่ทำให้เธอได้รับรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากงานเทศกาลภาพยนตร์กรุงโรม

ผลงานของ แชนนิง ทาทัม (โคล เดวิส) ในฐานะนักแสดง ผู้อำนวยการสร้าง ผู้กำกับและนักเขียน ที่ครอบคลุมช่วงเวลาเกือบสองทศวรรษ    ทาทัมได้แสดงให้เห็นความสามารถที่หลากหลายของเขาในผลงานภาพยนตร์มากมาย รวมถึง Dog ที่เขาอำนวยการสร้างและร่วมกำกับ, The Lost City, The Vow, Dear John, ภาพยนตร์โดยสตีเวน โซเดอร์เบิร์กห์เรื่อง Logan Lucky, ภาพยนตร์โดยแมทธิว วอห์นเรื่อง Kingsman: The Golden Circle, ดรามาชื่อดังเรื่อง Foxcatcher, ภาพยนตร์โดยพี่น้องโคเอนเรื่อง Hail, Caesar!, ภาพยนตร์โดยเควนติน ทารันติโนเรื่อง The Hateful Eight, 21

เกร็ก เบอร์แลนติ (ผู้กำกับ)  ผู้อำนวยการสร้าง ผู้กำกับและมือเขียนบท ผู้ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลดับบลิวจีเอดีจีเอพีจีเอลูกโลกทองคำและเอ็มมี เป็นผู้อยู่เบื้องหลังผลงานจอแก้วและจอเงินที่โด่งดังและมีความคิดสร้างสรรค์มากที่สุดหลายเรื่อง

เขาเริ่มต้นทำงานในแวดวงจอแก้ว จากนั้น ปี  เขาก้าวขึ้นเป็นทั้งผู้สร้าง มือเขียนบทและผู้อำนวยการสร้างเบื้องหลังผลงานที่ยิ่งใหญ่และสร้างสรรค์ที่สุดในจอแก้วมากมายหลายเรื่อง  บางครั้ง เบอร์แลนติก็มีผลงานซีรีส์ 15 เรื่อง  ซึ่งเป็นการทำลายสถิติสำหรับซีรีส์ที่ออกอากาศพร้อมกันมากที่สุด   เขาได้เปิดตัวผลงานการกำกับภาพยนตร์เรื่องแรกในปี 2000 ด้วย The Broken Hearts Club ผลงานล่าสุดคือภาพยนตร์ที่ได้รับเสียงวิจารณ์ชื่นชมเรื่อง Love, Simon นอกจากนั้น เมื่อเร็วๆ นี้ เขายังได้อำนวยการสร้าง Atlas ที่นำแสดงโดย เจนนิเฟอร์ โลเปซ อีกด้วย  ชื่อของเบอร์แลนติได้อยู่ในลิสต์ 100 บุคคลทรงอิทธิพลประจำปี 2020 ของนิตยสารไทม์ด้วย

คนทั้งโลกต้องจับตามอง !

เมื่อ “สการ์เล็ตต์ โจแฮนสัน” และ “แชนนิ่ง เททั่ม”

นำแสดงใน #FlyMeToTheMoon ทะยานฟ้าสู่พื้นจันทร์

สิงหาคม ในโรงภาพยนตร์เท่านั้น