เรียกได้ว่าเป็นการเปิดใจครั้งแรกแบบเต็มๆ พร้อมกับเหรียญทองโอลิมปิก เพราะหลังจากลงเครื่องมาเมื่อเช้า (13 สค.) “เทนนิส พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ” นักกีฬาเทควันโดหญิงหนึ่งเดียว ที่สร้างปรากฎการณ์ทำให้คนไทยทั้งชาติต่างสุขใจ เมื่อเธอเตะชนะนักกีฬาจากประเทศจีน จนทำให้เธอได้เหรียญทองมาครอง พร้อมยังติด 1 ใน 4 เป็นตำนานเทควันโดของโลก พร้อมยืนยันจะปิดฉากการเป็นนักเทควันโดแน่นอน งานนี้ยังควง “โค้ชเช” ชัชชัย เช ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของนักกีฬาเทควันโดไทย รวมไปถึงเรื่องราวและโมเม้นท์กว่าจะได้เหรียญทองเหรียญนี้มาครอง
เทนนิส : เมื่อเช้าคนมารับเยอะมากจนเราตกใจ (ได้ข่าวว่าตัวเลขอัดฉีดปาไปถึงสัก 30 ล้านแล้ว) ตอนนี้ยังเห็นสักล้านเลยค่ะ (ยิ้ม)
ย้อนกลับไปวันที่แข่งคือ ไม่คุยกับใครเลย ปิดวาจาไปเลย
เทนนิส : อยากจะโฟกัสกับเส้นทางการแข่งขันสู่เหรียญทอง ไม่คุยกับใคร ไม่ดูสื่อต่างๆ ปิดโหมด ไม่อยากกดดันตัวเอง เพราะนี่เป็นครั้งสุดท้ายก่อนเลิกเล่น มันเป็นเวทีครั้งสุดท้ายที่หนูไม่สามารถกลับมาแก้ไขอะไรได้แล้ว ซึ่งความกดดันในการแบกรับนั้น หนูเต็มที่กับการฝึกซ้อม หนูเต็มที่ เพราะมันเป็นแมทช์สุดท้าย หนูเต้มที่ใส่สูบหมดแม็กซ์ เต็มที่ตั้งแต่ก่อนไปแข่งขันอีก เหมือนคนบ้าคนนึง จนนักจิตวิทยาบอกให้ลดลงบ้าง เพราะมันกลายเป็นหมกหมุ่นไปแล้ว คือหนูจะซ้อมอย่างเดียว ไม่อยากไปไหน จนเขาบอกว่าต้องพักบ้าง
โค้ชเช : ผมคิดว่าเทนนิส เล่นมาหลายปี ผมช่วยในเรื่องของเทคนิคผมเชื่อว่าเขาดูแลตัวเองได้ครับ ถ้าเขาต้องการแบบนี้ ผมก็สนับสนุนเต็มที่ครับ
ลูกศิษย์ของเรา ในตอนนี้สุขภาพไม่ค่อยดี?
โค้ชเช : จริงๆ เทควันโด เป็นไฟต์ติ้งสปอต ต้องซ้อม มีโอกาสบาดเจ็บเยอะมากครับ ทั้งเข่า ทั้งสะโพก
เทนนิส : ของหนูมันเป็นการบาดเจ็บเรื้อรัง ไม่ใช่การแข่งแล้วชนกัน และเจ็บทันที มันเป็นอาการที่เจ็บสะสมมานาน ขาข้างขวา เอ็นไขว้หลังขาดไปแล้ว ข้างซ้ายมันดัง ซึ่งไม่ได้ทำอะไรกับมัน ก็บอกหมอว่าแข่งโอลิมปิคเสร็จแล้วค่อยไปทำทีเดียว เพราะถ้าทำเลย อาจจะต้องพักฟื้นนาน คือถามว่าใช้ชีวิตมันเจ็บไหม มันก็ไม่ได้เจ็บมาก ถ้าไม่ได้เอาไปชยหรือปะทะ สะโพกก็ทั้งสองด้าน หมอเขาก็เป็นห่วง เรากับโค้ชก็มีความเห็นว่าพักเหลือสัปดาห์เดียว เราอยากจะไปซ้อมมากกว่า
โค้ชเช : จริงๆ โอลิมปิคสำหรับเทนนิส คือตอนที่ซ้อมกับเขา ผมก็ไม่ได้พักไปกับเขาเหมือนกัน ผมรู้ว่าเขาเจ็บบ้าง แต่ถ้าเจ็บจริงๆ เขาก็ขึ้นไปเวทเทรนนิ่งครับ ส่วนใหญ่เทนนิสเขาก็รู้ตัวเองว่าเขาไหวแค่ไหน
โค้ชคาดหวังกับแมทช์นี้ขนาดไหน
โค้ชเช : จริงๆ ผมมั่นใจว่าเทคนิค และประสบการณ์เขาเป็นอันดับหนึ่ง แต่ว่าห่วงที่จิตใจ ครั้งที่แล้วได้เหรียญทองมา กลัวเขาจะกดดัน เพราะครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายของเขาด้วย คือผมไม่ใช่ไม่ได้กดดัน แต่เรารู้ว่าเขามีเทคนิคของเขา อยากให้เขาทำดีที่สุดก็คือการให้กำลังใจ ให้เล่นเต็มที่ ก็ไม่ตื่นเต้น เชื่อว่าเราชนะได้แน่นอน ผมบอกว่า ไม่ต้องคิดว่าครั้งนี้เป็นการแข่งโอลิมปิกว่าเป็นครั้งสุดท้าย เหมือนครั้งนี้เป็นการแข่งกลางปี ซึ่งกลางปีหนักกว่าเพราะแข่ง 32 คน แต่โอลิมปิกแค่ 16 คน ซึ่งเป็นการแข่งกับคนเดิมๆ ไม่ได้เป็นคนพิเศษอะไร
เทนนิส : ช่วยได้เยอะเลยค่ะ เพราะคนรอบข้างค่อนข้างคาดหวัง คนไทยเชียร์หนู คิดว่ายังไงหนูก็ต้องคว้าเหรียญทองแน่นอน มันเป็นทั้งกำลังใจและแรงกดัน แต่คนรอบข้างทุกคนบอกให้ทำเต็มที่ เราสบายใจ เพราะไม่ว่าจะยิ่งใหญ่แค่ไหน สรุปแล้วมันก็มีแค่สนามแปดเหลี่ยมเหมือนเดิมที่เราฝึกซ้อม ได้เจอคู่ต่อสู้เดิมๆ เราซ้อมมาเยอะมาก
คู่ปรับจากจีน เคยเจอมาแล้ว เป็นไงบ้าง
เทนนิส : สำหรับการมาเจอจีน เขาเป็นคนที่เตะไวและมาเตะวงใน ซึ่งหนูเป็นมวยขายาว ถ้าเข้ามาใกล้ หนูจะเตะทันที ต้องเตะให้ทันก่อนเขาเข้ามาถึงตัว พูดกับตัวเองเสมอว่าเตะยาวๆ เข้าไว้ ห้ามโดนรวบ ห้ามโดนกอด ตึงๆ เข้าไว้ ซึ่งท่าไม้ตาย สกอร์เปี้ยน คิก แต่กฎกติกาบางทีก็ห้ามเล่น เพราะมันมีน้อยคนที่ทำท่านี้ได้ เป็นการเตะไขว้หลัง ด้วยองศาและสะโพกที่หลวมเลยทำให้เตะท่านี้ได้ (หัวเราะ) และอีกหนึ่งท่าคือที่ซุ้มซ้อม ถีบตัดลง และถีบตัดหัว ซึ่งท่าสกอร์เปี้ยน คิก คือหนูเตะได้ทั้งในระยะใกล้และไกล จนโดนแบนนออกไปว่าห้าเตะในระยะใกล้ซึ่งจะมีไอร์แลนด์ก็เตะท่านี้ได้เหมือนกัน
อีกโมเม้นท์ที่อบอุ่นมาก ตอนเทนนิสลงไปกราบโค้ช?
โค้ชเช : มันเป็นธรรมชาติ ปกติชนะ เขาวิ่งมา เราก็กอดเขา ก็ขอบคุณเขา เพราะบางโค้ชเขาก็คุยกันว่าถ้าได้เหรียญทองต้องทำยังไง แต่ภาพที่ออกไป มันคือธรรมชาติ และวินาทีที่โค้ชวิ่งถือธงชาติไทยวิ่ง ปกติก็ต้องเป็นนักกีฬา แต่ว่าครั้งนี้เทนนิสบอกว่าโค้ชเชก็ต้องถือวิ่งให้รอบๆ นะ
เทนนิส : เพราะโค้ชเชเป็นคนไทยแล้ว ได้สัญชาติไทยแล้ว และตอนโอลิมปิคที่ญี่ปุ่น โค้ชยังไม่ได้เป็นคนไทย รอบนี้เรามาในฐานะคนไทยด้วยกัน เป็นโค้ชคนแรกที่วิ่งธงบนเวทีโอลิมปิค
โค้ชเช : รู้สึกไม่เหมือนครั้งที่แล้ว เพราะครั้งที่แล้วไป ตอนโตเกียว ผมยังไม่ได้สัญชาติไทย แต่พอมาครางนี้ผมเป็นคนไทยจริงๆ ผมก็อยากได้เหรียญทอง
“น้องเทนนิส” เป็นตำนานเทควันโด คนที่ 4 ของโลก
เทนนิส : คือภูมิใจมากๆ ที่ทำมันสำเร็จ เป็นประวัติของตัวเอง และประวัติของประเทศไทย ที่มีชื่อประเทศไทยไปติดอยู่ ความเหนื่อย ความเสียสละของเรา ทำให้คนไทยมีความสุข อยากบอกโค้ชว่าที่ให้โอกาสหนูตั้งแต่ 14 ปีที่แล้ว เตะตั้งแต่ยังไม่เก่ง โค้ชทำให้หนูมาถึงวันนี้ อยากขอบคุณมาก และตำแหน่งนี้คือ 4 ปีมีครั้ง มันเป็นเวทีของมวลมนุษย์ชาติ กว่าจะติดอันดับของโลก ก็ดีใจมากๆ
โค้ชเช : ผมรู้สึกเสียดายจริงๆ ที่ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายของเทนนิส ผมก็อยู่กับเทนนิสมา 13 ปี ทำอะไรก็ทุ่มเท ทำอะไรก็มีระเบียบวินัย ผมซัมพอร์ตต่อ ให้กำลังใจต่อไป
แต่คนอยากให้เราเล่นต่อ เรารู้สึกยังไง?
เทนนิส : สำหรับหนู หนูเข้าใจความรู้สึกของทุกคน เพิ่งคว้าเหรียญทองมา เป็นอันดับโลกที่สูงมากๆ และสามารถทำผลงานได้อย่างต่อเนื่อง อีกหลายๆ ปีแน่นอน ขอบคุณที่ทุกคนเชื่อมั่นในตัวหนู แต่สำหรับหนู หนูไม่เคยเสียดายวันเวลาที่ได้ทำมันมา จนวันนี้อายุ 27 ปี มันเหมือนหนังสือเล่มนึง ที่ตั้งใจเขียนมา และนี่คือหน้าสุดท้ายของเทควันโดแล้ว ตอนนี้จบได้แฮปปี้เอนดิ้งแล้ว อยากไปทำตามความฝันของตัวเอง ไม่ได้กลับไปแข่งแน่นอน แต่ก็มียิมเทควันโด เป็นโค้ชสอนเทควันโด เป็นสิ่งที่เราได้ทำได้ดีที่สุด
จริงๆ มันมีกฎว่าห้ามมีแฟนเหรอ?
โค้ชเช : เรามีกฎอยู่ คือจูเนียร์กับเทนนิสตั้งแต่รุ่นเยาวชน พบกันประมาณ 10 ปี เขาค่อนข้างสนิทกัน อายุใกล้กันสุดๆ เขาอาจจะไม่มีเพื่อนในรุ่นเดียวกัน จูเนียร์ช่วยเยอะ เป็นเพื่อนกัน คือเขามาแข่งเพื่อชาติ เป็นนักกีฬาเป็นคู่ซ้อมอย่างเดียว
จูเนียร์ : จริงๆ เหมือนเป็นเพื่อนกัน อยากได้เหรียญทองโอลิมปิก ตอนนั้นอยากไปโอลิมปิก ตอนนี้ก็ดีใจ ภูมิใจกับน้องเขาด้วย
ฝากคนที่ขึ้นมาเป็นนักกีฬาเทควันโด?
โค้ชเช : สมาคมเราตั้งแต่รุ่นเยาวชน มีตัวแทนเป็นเหมือนเทนนิส เราพยายามสร้างให้เป็นเหมือนเทนนิส
เทนนิส : หนูก็อยากฝากเด็กๆ ที่ทำตามความฝัน อยากให้ทำเต็มที่ ถึงแม้ว่ามันจะยาก ยากมได้แปลว่าทำไม่ได้ เพราะฉะนั้นขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆ ความฝันเลยนะคะ
ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama
คลิปสัมภาษณ์