รุ่นใหญ่หัวใจสีชมพู ท็อป ดารณีนุช ควงแฟนหนุ่ม คุณไมโล มาเปิดเรื่องหัวใจ จากรักที่ไม่มีทางเป็นไปได้ สู่ความรักหวานฉ่ำกว่า 2 ปี พร้อมเปิดมุมมองความรักครั้งใหม่ในวัย 56 ปี กลัวคนมองว่าแก่เกินมีรักใหม่หรือเปล่า ต่างฝ่ายฝ่าด่านลูกๆ กันยังไง งานนี้เส้นทางแอบรักเพื่อนกว่า 40 ปี เป็นยังไง แล้วที่มีข่าวว่าเตรียมมีข่าวดีควงคู่กันแต่งงานจริงไหม ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง วัน31 ที่มี เบนซ์ พรชิตา, บูม สุภาพร และ ดีเจพุฒ พุฒิชัย เป็นพิธีกรดำเนินรายการ
พี่ไมโลแอบรักมา 40 ปี จริงหรอ ?
ไมโล : ตอนเด็กๆ แอบชอบมากกว่า เจอกันครั้งแรกตอน ม.1 ยังไม่ได้เป็นเพื่อนกันเลย วันนั้นผมเอาวิทยุไปโรงเรียน แล้วเค้าเดินมาขอยืม เราก็งงเพราะยังไม่รู้จักกันเลย แต่ก็ให้ยืม
นึกอะไรไปยืมเค้า?
ท็อป : คนมันทันสมัย
ตอนนั้นคิดอะไรกับเค้าไหม ?
ท็อป : ไม่คิด อยากได้ของจะมาอวดเพื่อนผู้หญิง เค้าให้วิทยุเรามา แล้วเราก็ไม่รู้ว่าเค้าประทับใจเรา
ไมโล : เค้าบอกว่าเดี๋ยวเลิกแถวเอามาคืน ซึ่งวันนั้นเราก็กลัวว่าถ้าไม่ได้คืน กลับไปต้องโดนว่าแน่ แล้วเลิกแถวเค้าก็เดินเอามาคืนเราจริงๆ
ท็อป : เค้าประทับใจที่ฉันเป็นมิจฉาชีพ
จุดเริ่มต้นของความรักและการแอบชอบคือยังไง ?
ไมโล : จากตรงนี้ก็เริ่มชอบ เริ่มมองเขาเรื่อยๆ แต่ไม่ได้จีบ ในที่สุดเพื่อนก็อยู่กลุ่มเดียวกัน แต่ก็ยังไม่กล้าบอกเค้านะว่าชอบ
พี่ท็อปรู้มั้ย ?
ท็อป : ไม่ได้สนใจเลย พี่มีแต่พุ่งไปข้างหน้า ชีวิตสนุก ชอบไปชอบผู้ชาย ถ้าเห็นหล่อจะต้องไปเก็บสแปร์ คือไปดู ไปแอบส่องผู้ชาย เพราะไม่เคยอยู่โรงเรียนที่มีผู้ชาย อยู่แต่โรงเรียนหญิงล้วน
แล้วได้มาเจอกันอีกทีเมื่อประมาณกี่ปีที่แล้ว ?
ท็อป : เกือบสองปี
แล้วมาเจอกันได้ยังไง ?
ท็อป : คือเล่นเฟซบุ๊ก ตอนพี่เปิดเฟซบุ๊กก็ไม่ได้เปิดเอง ตอนนั้นมีลูกน้อง ลูกน้องเป็นคนเปิดให้ เราไม่ค่อยรู้เรื่อง เสร็จแล้วเค้าเข้ามาในกล่องข้อความ เราไม่แม้กระทั่งรับเค้าเป็นเพื่อน พอรับไม่เป็น ไม่รู้เรื่องเลยไม่สนใจ แล้วเค้าทักข้อความมาหาเรา แต่มันไม่ได้รับการอ่าน เพราะเราไม่ได้เป็นเพื่อนเค้า เสร็จแล้ววันนั้นเราไปทำบุญ ทำธุระ รถก็ยางแตก ก็เลยไปสระผม เพราะอยู่ร้านทำผมมันมีสมาธิ แล้วก็เปิดดู แล้วมือไปโดนปุ่มข้อความ ก็เจอว่าเค้าส่งข้อความมาหาเรา แล้วลบทิ้ง 2 ข้อความ ก็รู้สึกทำไมเรามารยาทไม่ดีเลย คือคนเค้าคุย เค้าลบทิ้งแสดงว่าเค้าต้องรอนาน ก็เลยตอบกลับกลับไปว่า ขอโทษทีนะเราเพิ่งได้มาอ่าน นี่ตอบทันทีเลย
2 ข้อความ ที่ลบทิ้งไปส่งไปว่าอะไร?
ไมโล : ตอนนั้นมีเรื่องอยากจะปรึกษาเค้า คิดว่าเรื่องนี้อยากปรึกษาใครสักคน แต่ไม่อยากได้เพื่อนสนิท อยากได้คนที่รู้จักเราหมด แต่ก็ไม่อยากได้คนที่เราไม่รู้จักเลย แต่ออกมาเป็นเค้าได้ยังไงก็ไม่รู้
ท็อป : พอเค้าบอกว่ามีเรื่องอยากปรึกษา พี่ก็ก็ถามเค้าว่า เธอจะยืมตังค์เราหรอ เราระแวง
แล้วพี่ไมโลตอบไปว่ายังไง ?
ไมโล : พอตอบกลับไปสักอาทิตย์เค้าก็ไม่อ่าน เราก็แบบสงสัยเค้าไม่อยากอ่านแล้ว ก็ลบดีกว่า พอลบไปครั้งหนึ่ง แต่ก็ยังรู้สึกคาใจ อยากปรึกษา ก็พิมพ์ไปอีกรอบ แต่ก็ลบอีก นั่นแหละครั้งที่สองเค้าถึงติดต่อมา
เวลาผ่านไปเกือบ 40 ปี จำเค้าได้ไหม?
ท็อป : จำได้ รู้จัก
ไมโล : เป็นเพื่อนในกลุ่มอยู่แล้ว
ท็อป : มันเป็นกลุ่ม แต่ไม่ได้เป็นเพื่อนผู้ชายที่สนิท มีเพื่อนผู้ชายอีกชั้นนึงที่สนิท กับพี่ไมโลไม่ค่อยได้พูด มึง กู กัน แต่กับเพื่อนผู้ชายคนอื่นเราก็ชัดเจน
ทำไมเค้าพูดไม่ได้ ?
ท็อป : ตอนเวลาอยู่ในกลุ่ม ตอนเย็นเราต้องไปนั่งหลังตึก เค้าก็จะมีพ่อแม่มารับพาไปตีเทนนิส
อะไรที่ทำให้ไปคุยกับเค้า เพราะพี่ท็อปไม่ได้เปิดใจให้ใครง่ายๆ?
ท็อป : ไม่เปิดเลย คือเป็นเพื่อนไง ก็บอกเค้าถ้าไม่ใช่เพื่อนฉันไม่คุยนะ ก็คุยกับเค้า เค้าบอกมีเรื่องปรึกษา คนทั่วไปเข้ามาในไอจีปรึกษาพี่ พี่ยังคุยด้วยเลย พอคุยกันไปมา ก็รู้สึกว่าเค้าคงไม่มีใครจริงๆ หมายถึง 1. เค้าเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยว แล้วคนที่เค้าคุยปรึกษา ที่มันเป็นชะนี ก็คงไม่มี เค้าปรึกษาเรื่องความรักด้วยซ้ำไป เราเป็นแบบเหมือนเจนโลก ก็มีมาคนนึง ก็คิดว่าเรามาใช้ชีวิตเดี่ยวแบบนี้ก็มีมุมมองความรักอีกแบบนึง ก็ให้คำปรึกษากับเค้า
แล้วจีบกันยังไง?
ท็อป : เค้าเป็นคนคุยทุกวัน เค้าติดต่อมาทุกวัน เราก็เริ่มติด เค้าจะทักมาไหม วันนึงคุยกันเค้าบอกว่า เคยแอบชอบเราด้วยนะ เราก็คุยไปเรื่องอื่น แล้วเค้าก็บอกว่า อุ๊ย…บอกไปแล้ว ทำลูกเล่น
ตอนนั้นพี่ไมโลจีบพี่ท็อปแล้วใช่ไหม ?
ไมโล : ใช่สิ
ทำไมจากการปรึกษาแล้วมาเปลี่ยนว่าจีบคนนี้ดีกว่า ?
ไมโล : เราชอบอยู่แล้ว แล้วตามเค้ามาอยู่ตลอด แต่ว่ามันหลายอย่าง แล้วก็จังหวะชีวิต มันเหมือนทุกอย่างมาลงตัวตอนนั้นพอดี
แล้วโมเมนต์ไหนที่ขอเป็นแฟน ?
ท็อป : จำได้ขอในรถ ตอนนั้นเวลาจีบกันเราชอบไปเดิน สุวรรณภูมินี่เดินจนคนเค้างง เสร็จวันนั้นที่ตกลงเป็นแฟนก็คุยกันในรถนี่แหละ ก็ตกลงว่ามาคบกันก่อน เสร็จแล้วให้เค้าไปเคลียร์ตัวเอง แล้วมันก็มีเหตุต่างๆ เฮ้ยเอายังไงกันแน่ แล้วเค้าก็ไปเคลียร์ จนมันเสร็จแล้ว ก็เลยบอกโอเค จากวันนี้เราคบกันนะ เค้าไปรับเราไปทำบุญ เช้าใส่บาตร น้ำตาไหล คือก่อนหน้าหน้านั้น มันจะเอายังไง เราไม่ชอบความรู้สึกพวกนี้อยู่แล้ว ที่ต้องมาเสียใจ ไม่เอาละเว้ยความรัก
ให้เค้าไปเคลียร์เราเองก็เฝ้ารอ ?
ท็อป : ก็ไม่ถึงกับรอ ให้มันรู้แล้วกัน ถ้าไม่คบก็จะได้เดินต่อ
ที่บอกว่าตักบาตรแล้วน้ำตาไหล ตอนนั้นคิดอะไร?
ท็อป : เฮ้ยทำไมมันเป็นเรื่องรบกวนใจเรา ทำไมเสียใจว่ะ ปกติจะไปกับน้องสองคน เราจะเป็นคนขับรถ จากอุดรไปบึงกาฬ วันนั้นน้องขับคนเดียว นี่ก็นั่งโทรศัพท์กับเล่นไลน์คุยกับเค้าว่าตกลงยังไง เสร็จเค้าบอกว่าขอมารับได้ไหมที่สนามบิน พอเค้ามารับก็พาไปเดินเล่น cdc ก็ถ่ายรูปกันครั้งแรกที่คบกัน พวกเพื่อนๆ ได้ดูรูปนี้ โห.. ความรู้สึกผู้หญิงมันเยอะกว่าผู้ชาย
ส่งรูปนี้ไปให้ใครดูบ้าง ?
ท็อป : พี่ก้อง พี่ผัดไท พวกนั้นจะบอกว่าผู้หญิงมันดูเยอะเนาะ ผู้ชายก็งั้นๆ แต่ผู้หญิงมันดูเยอะ ผัดไท บอกว่าพี่ไมโลหนีไป เตือนแล้วนะ
เพื่อนๆ น่าจะแฮปปี้มากที่พี่ท็อปตัดสินใจ?
ท็อป : แรกๆ ก็ไม่แฮปปี้ เหมือนโดนแย่งเพื่อน ในกลุ่มก็มีความกระสับกระส่ายพอสมควร แล้วเค้าก็ปรึกษากัน ผัดไทบอกว่า เผื่อเค้ารักกันจริง เราอยากไปอะไรเลยไหม ท่าทางคือแบบทำให้มันแตกแยกกันไป จะได้เพื่อนกลับมา
เค้าเป็นห่วงหรือกลัวเพื่อนหาย ?
ท็อป : เค้าอิจฉากันนั่นแหละ ฉันไม่มี ทำไมพวกแกมี มันว่าอย่างนี้ คือเพื่อนๆ ไม่มีคู่ แล้วมารวมกันไปซื้อที่ดินด้วยกัน กะจะไปอยู่ด้วย อยู่ๆ จะหนีไปมีแฟน เพื่อนก็เซ็ง
พี่ไมโลได้เจอเพื่อนพี่ท็อปบ้างหรือยัง ?
ไมโล : เจอครับ พอเริ่มตกลงว่าเป็นแฟนกันปุ๊บ เค้าก็บอกว่าเธอต้องไปเจอเพื่อนเค้านะ
ท็อป : เพื่อนเหมือนพ่อแม่ เพื่อนเหมือนญาติ เพราะพ่อแม่เราตายแล้ว เพื่อนเราคือญาติเรา ต้องมาเจอ เพราะชีวิตเราดำเนินมาได้ด้วยการปรึกษาเพื่อนมาโดยตลอด
พอไปเจอเพื่อน ด่านเพื่อนเป็นยังไง?
ไมโล : ดูน่ากลัว แต่พอเจอจริงๆแล้ว ดีทุกคน น่ารักทุกคน
เค้าบอกว่าพี่ท็อปเป็นคนที่แพ้คนเล่นกีตาร์แล้วก็ร้องเพลง ?
ท็อป : ไม่แพ้แต่ไม่เคยมี
ไม่มีคนเข้ามาในชีวิตเรานานมาก แต่อยู่ๆ มีผู้ชายเล่นกีตาร์จีบเรา ตอนนั้นหัวใจหลุดออกมาไหม?
ท็อป : ตอนฟังเค้าร้องเพลง ชอบตอนเค้าเล่นกีตาร์ เค้าเสียงหวานมาก เราเคยเจอแต่พวกผู้ชายดิบเถื่อน ก็รู้สึกว่ามันก็ชุ่มชื่นหัวใจดี
เพราะเวลาผ่านไปซักระยะ ได้คุยกัน แล้วตัดสินใจมาคบกันจริงๆ ความรู้สึกที่เราเฝ้ารอมา 40 ปี เป็นยังไงบ้าง?
ไมโล : มันดีกว่าที่เราคิด ทั้งหมดมันเกินกว่าที่เราคาดไว้
ความรักในวัยนี้มันดีไหม ?
ท็อป : ดี ความรักถ้ามันเป็นความรักที่จริงใจ แล้วมันเป็นความรักจริงๆ ดีหมด รักที่มันปรารถนาดีต่อกัน รักที่เมตตาต่อกัน มันไม่ได้หมายความว่ามันมีแค่ความรัก มันจะต้องเริ่มใช้ชีวิต เริ่มต้นดำเนินเรื่องต่างๆไปด้วยกัน แชร์ความรู้สึกกันทุกๆ อย่าง เราต้องมานั่งคุยกันก่อนว่า สิ่งที่เรารู้สึกมันดีอย่างนี้ มันถึงจะรักษาโมเมนต์นี้ ไปด้วยกันในความสัมพันธ์
มีความกังวลที่จะต้องบอกใครไหม ?
ท็อป : ตอนแรกมีนะ เราก็คิดเหมือนกัน อายุเยอะแล้วมามีแฟน คือเราไม่ได้แคร์หรอกว่าใครจะยังไง บางครั้งมันอาจจะไม่ใช่วัย ในวงจรชีวิตของมนุษย์ทั่วไป 20-30 มีครอบครัว นี่ฉันจะเกษียณอยู่แล้วจะย้อนมาตรงนี้อีก เค้าจะมองว่าอะไร ก็มีบ้าง อันนั้นมันเป็นการเปิดให้เราก้าวข้ามอะไรบางอย่างที่เรากังวล ฟีดแบคจากคนรอบข้าง เพื่อนๆ ลูก คุณผู้ชม มันทำให้เรารู้สึกว่าไม่เป็นไรหรอก แล้วมันทำให้เรารู้ตัวเองว่า จริงๆแล้วตัวเราเวลามีความรัก โดยเฉพาะอายุอย่างนี้ ประสบการณ์ในชีวิตมันทำให้เราฉลาดขึ้น เพราะฉะนั้นที่เราต้องมี คือได้เก็บสะสมสติ ปัญญา สิ่งต่างๆเหล่านี้ เอามาเพื่อประกอบการพิจารณาความรักเรา แต่ก่อนเรามีแต่ส่วนของอารมณ์ ความรู้สึก แล้วสมองก็จะน้อย จะเอาแต่รักๆ แต่ตอนนี้มิติมันกว้างขึ้น เพราะฉะนั้นรักในวัยนี้มันทำให้เรารอบคอบขึ้น แล้วก็ไม่ทะเลาะกัน
แล้วพี่ไมโลล่ะคะเป็นการเริ่มต้นใหม่ กับรักแรก?
ไมโล : อย่างที่บอกมันเกินคาด ผมไม่ค่อยห่วงทางฝั่งผมเท่าไหร่ ตั้งแต่เริ่มต้นเลยที่กลัวคือห่วงทางฝั่งเขามากกว่า ห่วงคือหมายถึงว่า เพื่อนเค้า คนรอบตัวเค้า จะรู้สึกยังไง
สิ่งที่ยากสำหรับพี่ๆในวัยนี้คิดว่าน่าจะเป็นเรื่องลูก ?
ท็อป : ใช่
ไมโล : ใช่ นั่นคือเรื่องแรกเลยที่คิด
เราคุยกับลูกยังไง ?
ท็อป : ตอนคุยกับพี่ไมโลพี่ก็เล่าให้ลูกฟัง ว่าแม่คุยกับเพื่อนอยู่นะ เค้าก็ถามว่าเพื่อนคนไหนเพราะเค้ารู้จักเพื่อนแม่ทุกคน ก็บอกว่าอันนี้ลูกไม่รู้จักหรอก จนตอนหลังเราเริ่มไปเดินออกกำลังกาย ก็เลยบอกว่าเออแม่คบคนนี้อยู่นะ ลูกคนเล็กก็อ๋อ รับรู้ แต่ลูกคนโตเค้าแยกบ้านไปอยู่กับภรรยา คนนั้นทำตัวเป็นพ่อ คนโตจะใจร้อน เค้าจะอยากรู้ว่า เค้าเป็นใคร ทำไมผมไม่รู้จัก เดี๋ยวผมจะโทรไปสืบ เพื่อนมัธยมแม่ที่เป็นผู้ชายลูกคนโตจะรู้จัก เค้าจะสืบ ทำงานอะไร เราก็บอกว่าใจเย็นๆ ยังไม่บอกอะไรเยอะ เราก็ให้เจอลูกคนเล็กก่อน เพราะเขาเป็นคนชิว ใจกว้าง แล้วค่อยมานัดเจอลูกคนโต โชคดีตอนที่เจอมีเรื่องที่ต้องคุยกัน เพราะลูกคนโตเค้าจะขายรถ ปรึกษาทางนี้ก็คุยกัน หลังจากนั้นก็ไปกินข้าวกัน แล้วเค้าก็มาบอกว่า คือลูกจะดูพี่ไมโลตลอดว่าเป็นยังไง เค้าบอกแม่เค้าเป็นคนอย่างนี้ๆ นะ เค้าก็สบายใจขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งเค้าจะไปเรียนต่อเมืองนอก เค้าบอกว่าเดี๋ยวผมจะเป็นสปอนเซอร์ให้เราสองคนรวมถึงตัวเค้าด้วยไปเที่ยวกระบี่ด้วยกัน เพราะว่าน้องเล็กไปบวชอยู่ ก็เลยพากันไปเที่ยวกระบี่ ต้องขอบคุณลูกๆ ใจกว้าง เค้าเป็นคนเปิดใจ ถามว่าเค้ารักเราเค้าห่วงเราไหม รัก เค้าพูดกับเราว่า แม่ได้ทำทุกอย่าง ตามคำพูดที่ให้ไว้กับผม คือพอเลิกกับคุณพ่อเค้า เราก็ไม่มีใคร แล้วเราก็เลี้ยงเค้ามาจนเค้าเติบโต จนเค้าแข็งแรงแล้ว แล้วตอนนี้เหมือนเป็นพาร์ทที่เธออยากจะมีความสุขก็ให้โอกาสเธอนะ
พี่ไมโลเตรียมตัวเตรียมใจที่จะไปเจอลูกของพี่ท็อปไหม ?
ไมโล : ก็เตรียมตัวครับ แต่ก็อย่างที่บอกมันจังหวะพอดี เค้าอยากปรึกษาเรื่องรถพอดี เพราะผมก็ทำรถมือสองอยู่ ก็เลยได้คุยมันเลยง่าย แล้วที่เค้าชวนไปกระบี่ ส่วนนึงเค้าก็ก็คงอยากเห็นด้วยว่าเราเป็นยังไง เพราะมันจะใช้เวลาอยู่ด้วยกันหลายวัน
ฝั่งพี่ท็อปผ่านแล้วแล้วฝั่งพี่คุยกับทางบ้านยังไง ?
ไมโล : ลูกผมจะเด็กกว่า อยู่ ม.4-ม.5 เค้าก็ฟังเราอยู่แล้ว เราอธิบายให้เค้าฟัง เราไม่ได้ทำอะไรที่เค้าไม่เห็น มีอะไรก็บอกลูก เพียงแต่ว่าเราอาจจะต้องใส่ใจเค้ามากกว่าหน่อย ด้วยความที่เค้าดีกว่า
เค้าเจอพี่ท็อปเค้ากลัวไหม ?
ไมโล : ไม่เลย เค้าชอบ คนนี้เค้าเข้ากับเด็กได้อยู่แล้ว
ทำยังไงถึงจะชนะใจเด็กๆ?
ท็อป : เราต้องไม่พยายาม เป็นธรรมชาติ เราไม่ได้รู้สึกว่าเรามาเพื่อแทนใคร เราไปในฐานะ ไปด้วยกันแล้วเอ็นดูเค้า อะไรที่เป็นเรื่องของเค้า เราก็ไม่ล้ำเส้น หรือเค้าเล่าเรื่องความลับอะไรให้เราฟัง เราก็ไม่บอกพ่อเค้า เรารู้สึกว่าพอเราเคารพเค้า หรือฟังเค้า เค้าก็อยากจะเล่า เค้าก็คุย เจอกันก็พาไปไปกินข้าวให้เค้าสบายใจ
พี่ไมโลวางแผนจะแต่งงานกับแม่ท็อปจริงหรอ ?
ไมโล : เราต่างคนต่างไม่ได้คิดคิดถึงเรื่องตรงนี้แต่พออยู่ไปเรื่อยๆ หลายๆ คนเชียร์ อยากให้มีงาน มันเหมือนเป็นการรวมเพื่อน ปาร์ตี้ให้เพื่อนมาเจอกัน วัยเรามันไม่น่ามีงานแบบนี้แล้วถูกไหม คือถ้าไปก็ไปงานลูกแล้ว
ไม่รู้จะจัดไหมแต่มีสถานที่แล้ว ?
ท็อป : คุณหมิว ลลิตา นัดเจอกัน คุณดาวเค้าบอกว่าพี่ท็อปไปจัดที่รีสอร์ทน้องหมิว เป็นแบบเล็กๆน่ารักริมทะเล เค้าก็คิดวาดฝันกันใหญ่ ไอ้เรายังงงอยู่เลยใครเจ้าสาว อ๋อเราหรอ มันก็ตื่นเต้น แต่ตอนไหนอะไรยังไงยังไม่รู้
แล้วเจ้าของสถานที่เค้าว่ายังไงบ้าง ?
ท็อป : พี่หมิวเค้าบอกมาเลยๆ เค้าอยากให้เราจัด เหมือนถ้าเราจัดก็จะได้โปรโมทรีสอร์ทด้วย น้องหมิวเป็นคนน่ารักมาก เหมือนน้องสาวคนนึง เวลาเค้าไม่สบายก็โทรคุยติดต่อกันตลอด แต่พอมีพี่ไมโลฉันไม่โทรหาหมิวเลย
มีอะไรอยากจะพูดกับพี่หมิวหน่อยไหม?
ท็อป : ขอบคุณหมิวมากนะ หมิวอยู่ในช่วงชีวิตพี่ตั้งแต่พี่เข้าวงการมาใหม่ๆ อยู่กันมาตลอด เพราะฉะนั้นหมิวก็เป็นคนสำคัญในชีวิต งานบวช งานแต่ง งานอะไรหมิวจะต้องมีส่วนตลอด
พี่หมิวคอนเฟิร์มจริงไหม?
หมิว ลลิตา : ขอแสดงความยินดีกับความรักครั้งนี้ของพี่ ถ้าเกิดว่างเมื่อไหร่จะปิดโรงแรมให้เลย พี่ทำงานกันเยอะแล้วอยากให้พักผ่อน สบายๆ หรืออยากให้เพื่อนๆ ในแก๊งไปด้วยก็ยินดีต้อนรับ อาจจะมีงานอะไรเล็กๆ ให้เพื่อนฝูงได้พบกันด้วยแล้วฉลองความสุขของพี่ด้วย ขอให้พี่มีความสุขมากๆ
พี่ไมโลพอเห็นเพื่อนพี่ท็อปเค้าเวลคัมเรา อยากให้เราแต่งงานขนาดนี้ อยากจะบอกอะไรเค้า?
ไมโล : ดีใจที่เค้ายินดีกับเรา จริงๆ ถ้ามันเป็นไปได้ เราก็อยากให้มันเกิดขึ้น
ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama
คลิปสัมภาษณ์ https://youtu.be/G_iIe_KwffU?si=4djZ9IyAThQm6skP